บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) มั่นใจว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมดและเตรียมจ่ายเงินปันผลงวดปีนี้ หลังเข้าซื้อธุรกิจรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะสร้างรายได้หลักให้กับบริษัท โดยปี 53 ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเติบโต 8% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ส่วนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสจะทยอยดำเนินการบนที่ดินเดิมของบีทีเอสที่มีมูลค่าราว 1.3 หมื่นล้านบาท
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง (BTS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าในปี 53 จะมีรายได้เติบโต 8% จากการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้ามีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 แสนคน/วัน หรือคิดเป็นรายได้ 12 ล้านบาท/วัน
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้าอีก 12 ขบวน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการใช้บริการของผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งการเติบโตของรายได้จะทำให้บริษัทมีความสามารถในการล้างผลขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด และสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 53 หลังจากบริษัทยังไม่เคยจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นมาก่อน
"แม้ในไตรมาส 1 เราจะเผชิญกับปัญหาการเมืองที่ทำให้เราต้องปิดให้บริการเดินรถเร็วขึ้น ทำให้ขาดรายได้ 1 ล้านบาทต่อวัน แต่ก็ยังเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นและกลับมาสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ที่เติบโต 8% เพราะภายใต้ความต้องการการเดินทางที่สะดวกสบาย บีทีเอสจะตอบโจทย์นี้ได้ และการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจและผู้ถือหุ้น"นายคีรี กล่าว
หลังจากนี้บริษัทจะมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังได้รับสัมปทานจากกรุงเทพมหานครในการบริหารการเดินรถขนาดเล็ก ใน 4 เส้นทาง คือ สยาม-สามย่าน-จุฬาฯ , กทม.2-พระราม 6 ,บางนา-สุวรรณภูมิ ,ทองหล่อ-รามคำแหง รวมถึงการรับบริหารบัตรสมาร์ทการ์ดในระบบตั๋วโดยสารร่วม เริ่มในเดือน ม.ค.54 เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารมากขึ้น และเป็นผลดีต่อระบบขนส่งโดยรวมและต่อรายได้ของบริษัท
สำหรับธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในโครงการที่ติดสถานีรถไฟฟ้า และนอกเส้นทางรถไฟฟ้า บริษัทยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผน โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าที่ดินรวม 1.3 หมื่นล้านบาทที่จะสามารถนำมาพัฒนาโครงการได้ โดยรายได้จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 54