นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กโทรนิคส์(SMT) กล่าวว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรสุทธิปี 53 เป็นเติบโตมากกว่า 60% จากเดิมตั้งไว้ที่ 40% เนื่องจากทั้งรายได้รวมและกำไรมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไมโครอิเลคโทรนิกส์ (MMA) และไอซีชิพ โดยผลิตภัณฑ์เติบโตในกลุ่มทัชสกรีน และเซ็นเซอร์ ในกลุ่มสมาร์ทโฟน ซึ่ง SMT ได้ประโยชน์เต็มที่จากการเติบโตดังกล่าว ทั้นี้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกโตแล้วกว่า 400% อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส2/53 ยังคงดีต่อเนื่อง และเป็นการเติบโตแบบขั้นบันไดและคาดว่ากำไรจะมีอัตราสูงกว่าไตรมาส 1/53 เนื่องจากบริษัทต้นทุนต่ำ อัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิต IC เพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านชิ้น ด้าน MMA ลูกค้ากลุ่มใหญ่ทุกกลุ่มมีถึงสิ้นปีแล้วและยังเป็นขาขึ้นทุกค่าย โดยลูกค้าหลักกลุ่มสมาร์ทโฟนโตเป็นทวีคูณ โดยคาดว่าในปี 2555 จะมียอดขาย 500 ล้านเครื่อง ซึ่ง SMT น่าจะได้รับประโยชน์ตรงนี้ด้วย ส่วนกลุ่มเซ็นเซอร์ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลดีตามมาจากอุตสาหกรรมขาขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนผลกระทบจากวิกฤตการเงินในประเทศกรีซยังไม่มีกระทบอย่างเห็นได้ชัด และคาดว่าไม่มีผลกระทบใน 1-2 เดือน ส่วนการเมืองไม่กระทบโดยตรงต่อบริษัท แต่อาจกระทบต่อผู้บริโภคที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ชุมนุมบ้าง นอกจากนี้เรื่องค่าเงินสามารถดูแลได้เพราะบริษัทรับรู้รายได้ทั้งสองด้านทั้งดอลล่าร์และบาท ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผันผวนได้ ซึ่งบริษัทไม่กังวลว่าบาทแข็งหรืออ่อนแต่กังวลว่าจะผันผวนสูงมากกว่า
ด้านกำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 90% แต่ยังสามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตบางส่วนได้อีก โดยปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 400 ล้านบาท และใช้ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายกำลังการผลิต IC และ MMA โดยเงินลงทุนทั้งหมดมาจากระแสเงินสด