SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 772.09 จุด ลดลง 6.97 จุด(-0.89%)มูลค่าการซื้อขาย 26,257.59 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายผันผวนตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียหลังปิดตลาดลบกันถ้วนหน้า และตลาดยุโรปเปิดมาลบเช่นกัน รวมทั้งดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลดลง 1% ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับการยุติการชุมนุมของคนเสื้อแดง คาดตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ยังคงผันผวนไร้ปัจจัยใหม่ กรอบการลงทุนพรุ่งนี้ แนวรับ 770 แนวต้าน 787-790 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 772.09 จุด ลดลง 6.97 จุด(-0.89%) มูลค่าการซื้อขาย 26,257.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนและมาปิดตลาดที่จุดต่ำสุดของวัน โดยระหว่างวันขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 787.38 และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 772.09 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 164 หลักทรัพย์ ลดลง 187 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 128 หลักทรัพย์
นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายวันนี้ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นหลัก หลังจากในช่วงเช้าเปิดตลาดบวก ต้องถือว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน ตามประเด็นภายนอกประเทศที่อิงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปิดตลาดติดลบกันถ้วนหน้า และส่วนหนึ่งเป็นเพราะดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบ 1% ด้วย ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล
ส่วนประเด็นภายในประเทศแม้กลุ่มนปช.จะขานรับมาตรการปรองดองแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจบลงอย่างไรและเมื่อใด แต่ทั้งนี้มองว่าปัจจัยการเมืองไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ตลาดหุ้นไทยให้ความสำคัญในขณะนี้ น่าจะเป็นปัจจัยต่างประเทศมากกว่า
สำหรับแนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ตลาดหุ้นไทยยังน่าจะผันผวน เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา นักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นต่างประเทศในคืนนี้ว่าจะเป็นในทิศทางใด โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ ส่วนตลาดยุโรปที่เริ่มเปิดมาแล้วยืนในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ต้องรอดูช่วงปิดตลาดยุโรปและสหรัฐคืนนี้ น่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงที่สถานการณ์ยังมีความผันผวน นักลงทุนควรชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ โดยเฉพาะการเมืองในประเทศว่าจะเป็นในทิศทางใด และอาจจะดูการลงทุนแบบเทรดดิ้ง ลงทุนระยะสั้นแบบปลอดภัยตามตลาดต่างประเทศ
กรอบการลงทุนพรุ่งนี้มองว่าขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้าน 787-790 จุด พร้อมให้แนวรับที่ 770 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,838.54 ล้านบาท ปิดที่ 254.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,628.46 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,485.23 ล้านบาท ปิดที่ 18.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,400.21 ล้านบาท ปิดที่ 626.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,399.94 ล้านบาท ปิดที่ 17.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท