ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินที่ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปทั่วยุโรป แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติมาตรการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่าเกือบ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ให้กับกรีซก็ตาม อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 สามารถดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษของนายเดวิด คาเมรอน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 53.21 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 5,334.21 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,257.15-5,387.42 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า มาตรการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่าเกือบ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) จะไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซและป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามไปทั่วยุโรปได้
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวนายเดวิด คาเมรอน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2545 หรือในรอบเกือบ 8 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.3%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง รวมถึงหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ธนาคาร HSBC ธนาคารลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลงตามราคาโลหะในตลาดโลก รวมถึงหุ้นเอ็กซ์สตราตา หุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส และหุ้นคาซัคมิส