ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 ราย อนุญาตให้บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล และบริษัท ไทยเอทานอลเอมีน ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหรือกิจกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดรวม 16 โครงการที่ถูกคำสั่งให้ชะลอโครงการไว้ก่อนหน้านี้ สามารถดำเนินการต่อได้ก่อสร้างและทดลองระบบได้ตามคำร้องขอ
"ศาลจึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งแปดอนุญาตให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหรือกิจกรรมดำเนินการได้ตามคำร้องคือก่อสร้างส่วนที่เหลือต่อไปจนแล้วเสร็จ ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ทดลองระบบที่เกี่ยวข้องทดลองเดินเครื่องจักรได้เป็นเวลา 60 วันภายใต้การตรวจสอบของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งแปดที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโครงการหรือกิจกรรมของผู้ร้อง เพื่อให้เป็นไปตามรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 8 รายงานข้อเท็จจริงการทดลองเดินเครื่องจักรของผู้ร้องต่อศาลทุก 15 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มทดลอง นอกจากในส่วนที่ศาลมีคำสั่งตามคำร้องนี้แล้วให้เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 908/2552 ลงวันที่ 29 กันยายน 2552 และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 592/2552 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2552" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่ผ่านมาเจ้าของโครงการหรือกิจกรรมได้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งแปดอย่างเคร่งครัด และผ่านความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการดำเนินการตามคำร้องดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในชุมชน หากไม่ดำเนินการต้อไปให้แล้วเสร็จจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เสียหายเป็นอันมาก และยากที่เยียวยาความเสียหายในภายหลัง
คดีนี้ ทางสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และพวกรวม 43 ราย ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 ราย ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร