โบรกฯ"เชียร"ซื้อ QH มองH2/53 ดีต่อจากรับรู้คอนโดหลังสวน-โครงการใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 12, 2010 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์(QH)หลังจากประกาศงบการเงินไตรมาส 1/53 กำไรออกมาดีกว่าคาดไว้มาก เป็นผลจากรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม สาทร และกำไรขายหุ้นบมจ.ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์(Q-CON)

ช่วงไตรมาส 2/53 คาดว่าผลประกอบการจะชะลอตัวลงจากไตรมาสแรก ทั้งจากปัญหาการเมืองและฤดูกาล แต่จะกลับมาดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม หลังสวน มูลค่า 3,500 ล้านบาท ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจฟื้น และการเมืองคลี่คลาย ช่วยยอดขายแนวราบดีขึ้น โดยคาดไตมาส 4/53 จะกลับมาโดดเด่นให้เห็นอีกครั้ง

โดยรวมทั้งปี 53 คาดว่า QH จะมีการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ       ราคาเป้าหมาย(บาท)
          สถาบันวิจัยนครหลวงไทย    ซื้อ             3.40
          บล.กิมเอ็ง           ซื้อเก็งกำไร         3.22
          บล.ดีบีเอสวิคเกอร์ส       ซื้อ             3.05
          บล.กรุงศรีอยุธยา         ซื้อ             3.00
          บล.โกลเบล็ก            ซื้อ             3.00
          บล.เอเซียพลัส           ซื้อ             2.60

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า QH ประกาศผลกำไรไตรมาส 1/53 จำนวน 1 พันล้านบาท ดีกว่าที่คาดไว้ และคิดเป็นสัดส่วน 50% ของกำไรทั้งปีที่คาดการณ์ไว้ 2 พันล้านบาท เพราะรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 118% ตามการเติบโตของโครงการแนวราบที่ระดับ 33% และที่สำคัญมีการบันทึกรายได้โครงการคอนโดมิเนียม 1.98 พันล้านบาท จากโครงการคอนโดมิเนียม สารทร ในสัดส่วน 83% ของมูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท

เหตุที่ยอดขายมีเข้ามามากในไตรมาสแรกของปี เนื่องจากผู้ซื้อเร่งการโอนเพราะเกรงว่ารัฐบาลจะไม่ต่อมาตรการลดภาษีกระตุ้นอสังหาริทรัพย์จากที่สิ้นสุดเดือน มี.ค.53 แต่ภายหลังรัฐบาลได้ต่ออายุให้อีก 2 เดือน นอกจากนั้น ยังมีกำไรจากการขายหุ้น Q-CON ซึ่งมีกำไรก่อนหักภาษี 197 ล้านบาท ขณะที่อัตราหนี้สินต่อทุนลดลง 73%

แต่แนวโน้มไตรมาส 2/53 คงอ่อนตัวจากไตรมาส 1/53 เนื่องจากมีการรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม สาทร อีกไม่มาก และปัจจัยลบจากการชุมนุมทางการเมืองในเดือน เม.ย.-พ.ค.ทำให้ยอดขายชะลอตัว แต่ในไตรมาส 4/53 คาดว่ายอดขายจะกลับมาดีอีกครั้ง ซึ่งจะมีโครงการหลังสวนเข้ามารับรู้รายได้ จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานให้ไว้เป็น 3.05 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี sum-of-parts

"ทั้งปี 53 ในไตรมาส 1 และ ไตรมาส 4 ที่จะเด่น และโดยรวทั้งปีกำไรโต 19% ถ้าเทียบในอุตสาหกรรมก็ถือว่าเด่น ปีนี้ทั้งอุตสาหกรรมมโดยแรวม ส่วนมากไม่บวกเล็กน้อยก็ปรับตัวลดลง เพราะว่าหมดอายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ก็จะโดนภาษีธุรกิจเฉพาะ เข้ามาเยอะ ตัว QH แม้จะโดนธุรกิจภาษีเฉพาะหลังหมดมาตรการฯเหมือนกัน เต่เขาก็ยังมีรายได้โครงการคอนโดฯเข้ามามาก" นายสมบัติ กล่าว

ด้านนายสุรศักดิ์ อนุตรโสตถิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ไตรมาส 1/53 มีกำไรดีมากกว่าที่คาดไว้ 820 ล้านบาท กลับปรากฎผลกำไร 1 พันล้านบาท แต่แนวโน้มไตรมาส 2 ชะลอตัว เพราะว่ารายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจะลดลง โดยโครงการคอนโดมิเนียม สาทร ได้โอนไปเกือบหมดแล้ว เหลือยกมาโอนในไตรมาส 2/53 น้อยมาก ขณะที่โครงการแนวราบก็มียอดขายชะลอได้วยเพราะมีปัจจัยเรื่องการเมือง

แต่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าหากการเมืองคลี่คลาย การชุมนุมยุติลง และ เศรษฐกิจก็มีแนวโน้มฟื้นตัวด้วย เพราะปัญหาหนี้ของกรีซคลี่คลายก็น่าจะฟื้นตัว อีกทั้ง QH จะมีโครงการเปิดใหม่ 13 แห่งในครึ่งปีหลัง ซึ่งก็จะช่วยทำให้ยอดขายเติบโต

"ตอนนี้แนะนำซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/53 ที่ออกมาดีมากกว่าที่คาด ... แต่ถ้าหากต้องการถือลงทุนระยะยาวมองว่าให้ไปซื้อในช่วงปลายไตรมาส 2/53 จะดีกว่า เพราะว่าถ้าตอนนี้เทรดเรื่องงบไตรมาส 1 ไปแล้ว พอเข้าสู่ไตรมาส 2 (ยอดขาย)จะ slow ลงมา ราคาหุ้นจะอ่อนตัว ก็ให้ไปซื้อในช่วงนั้นดีกว่า" นายสุรศักดิ์ กล่าว

นักวิเคราะห์จาก บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ในไตรมาส 2/53 จะรับรู้รายได้จากโครงการตอนโดมิเนียม สาทร อีกประมาณ 300-400 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม หลังสวน มูลค่าโครการ 3,500 ล้านบาท จะบันทึกในครึ่งปีหลัง

ส่วนยอดขายบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ คาดว่าจะชะลอตัวในไตรมาส 2/53 ซึ่งเป็นผลจากฤดูกาล และผลกระทบทางด้านการเมือง ทำให้กำไรในไตรมาส 2/53 ชะลอตัวจากไตรมาส 1/53

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตขึ้นได้ จากการเปิดโครงการใหม่ จะทำให้ยอดขายของคิวเฮ้าส์ ทางฝ่ายวิจัยได้ประมาณการกำไรของปี 53 ที่ 2,281 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 1,716 ล้านบาท และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.5% ต่อปี จึงมีคำแนะนำ"ซื้อ"

บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่า จุดเด่นของหุ้น QH อยู่ที่การเริ่มต้นรับรู้ความสำเร็จจากการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาในผลประกอบการปี 53 ประกอบกับแนวโน้มการ IPO ของ LH Bank ซึ่งถูกกำหนดไว้ในช่วงครึ่งหลังปี 53 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยสร้างผลกำไรพิเศษให้แก่ QH ในกรณีที่ขายเงินลงทุนใน LH Bank ออกไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ