GLOW เผย EBITDA ช่วง Q1/53 โต 72% ผลจากยอดขาย-ลูกค้าเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 12, 2010 12:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. โกลว์ พลังงาน(GLOW)เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/53 บริษัทรายได้รวม 9,044 ล้านบาท มีผลกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 2,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (NNP) จำนวน 1,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความต้องการกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นและยอดขายใหม่

ผลประกอบการในไตรมาส 1/53 แสดงให้เห็นถึงผลกำไรและการเจริญเติบโตของกลุ่มบริษัทที่ยังดำเนินต่อไป ทั้งนี้ปัจจัยต่างๆ ทางธุรกิจยังคงเป็นไปในทิศทางบวกสำหรับบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ได้เริ่มเปิดดำเนินการโครงการขยายธุรกิจใหม่

ทั้งนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงานทั้งจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่

ขณะที่ความล่าช้าในการเริ่มดำเนินการของโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 115 เมกะวัตต์ทำให้บริษัทต้องลดการจัดส่งไฟฟ้าให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้กำลังการผลิตมีเพียงพอสำหรับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ แต่รายได้ที่ลดลงจากการลดการจัดส่งไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ส่วนใหญ่จะถูกชดเชยโดยรายได้จากเงินชดเชยความล่าช้าจากการก่อสร้างที่ได้รับจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการ ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะสามารถเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ (CFB 3) ได้ภายในไตรมาสที่ 2/53

นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่ม GLOW กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 53 โดยการออกหุ้นกู้จำนวน 9,000 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาด้วยเงื่อนไขของอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการกู้ยืมที่ดีต่อบริษัทมาก

นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ยืมธนาคารอีกจำนวน 4,000 ล้านบาท โดยสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนได้แล้วสำหรับความต้องการเงินทุนของบริษัทในปี 54

การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้บริษัทสามารถลดความเสี่ยงด้านการจัดหาเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นแต่ยังรวมถึงการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนสำหรับโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เนื่องจากต้นทุนในการจัดหาเงินที่ได้รับมีอัตราต่ำกว่าเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้มาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ