MJD รุกธุรกิจโรงแรมดันรายได้ปี 54 เพิ่ม, เตรียมเปิด 2-3คอนโดฯใหม่ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 12, 2010 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เปิดเผยว่า บริษัทขยายธุรกิจไปในธุรกิจโรงแรม โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้าโครงการที่อยู่ร่วมกับโครงการคอนโดมิเนียม“Marrakesh"หัวหิน โดยจะแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 8 อาคาร 345 ยูนิต มูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท และเป็นโรงแรมจำนวน 76 ห้อง มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาทในพื้นที่เดียวกัน โดยเบื้องต้นคาดว่าโรงแรมน่าจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 2-3/54

"บริษัทฯ เลือกที่จะขยายธุรกิจโรงแรม เนื่องจากมองว่า เป็นธุรกิจที่มีความใกล้เคียงกับคอนโดมิเนียม ซึ่งเราเองมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็มีทีมที่มีประสบการณ์ทางด้านพัฒนาธุรกิจโรงแรมเข้ามาเป็นที่ปรึกษาอีกด้วย ซึ่งทางบริษัทฯ วางแผนที่จะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมเฉลี่ยเป็นสัดส่วนประมาณ 5-10% ของรายได้รวม" นาย สุริยน กล่าว

ส่วนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปี 53 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อีก 2-3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ ในย่านพญาไท พหลโยธิน และสีลม

ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบน ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อีก เนื่องจากมีสัดส่วนในตลาดเพียง 10 -15% ยังถือว่ามีคู่แข่งน้อยราย บวกกับปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป คนหันมาอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น และต้องการหาที่อยู่อาศัยในเมือง ที่มีความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบ ทำให้การพัฒนาโครงการระดับบน จำเป็นต้องเน้นเรื่องของคุณภาพ มากกว่าแข่งเรื่องราคา

นายสุริยน กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/53 บริษัทมีรายได้รวม 775.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.83% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 626.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 73.32 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการที่ลูกค้าเร่งโอนโครงการก่อนหมดมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทฯ มียอดขาย (Presale) ตั้งแต่ต้นปีในระดับที่น่าพอใจ และยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการ Marrakesh หัวหิน, โครงการ Wind รัชโยธิน, โครงการ Aguston สุขุมวิท 22 และ และโครงการร๊อยซ์ ไพรเวท เรซิเดนซิซ สุขุมวิท 31

"ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ถือว่ายอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากมีการทยอยรับรู้รายได้จากหลายโครงการเข้ามา ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก และสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย บวกกับคอนโดมิเนียมของเรา มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และมีคุณภาพ จึงทำให้ได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอมา อย่างไรก็ตาม เพื่อกระตุ้นการขายและการโอนโครงการ บริษัทฯ จึงใช้งบประมาณในการทำการตลาดมากขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงมาบ้างในไตรมาสแรกปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา" นายสุริยน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ