นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART)คาดว่า รายได้ของกลุ่มสามารถในช่วงไตรมาส 2/53 จะปรับตัวดีขึ้นทั้งเทียบกับไตรมาส 1/53 และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนทั้งปี 53 รายได้จะทำรายได้ใกล้เคียงเป้าหมาย 2.5 หมื่นล้านบาท
“เราได้มีการติดตามสถานการณ์ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับแผนงานรองรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา"นายวัฒน์ชัย กล่าว
สำหรับไตรมาส 2/53 สายธุรกิจ Mobile Multi-media จะมีการเปิดตัวมือถือไอ-โมบายรุ่นใหม่อีกกว่า 20 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้านสายธุรกิจ ICT Solutions คาดว่าแนวโน้มธุรกิจด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมยังมีทิศทางบวก โดยจากนี้ไปจะมีงานที่เข้าร่วมประมูลอีกกว่า 6,000 ล้านบาท
นอกจาก ธุรกิจปัจจุบันที่มีเป้าหมายในการสร้างรายได้และกำไรสูงสุดแล้ว กลุ่มสามารถยังได้ศึกษาและเตรียมการทั้งทางด้านเทคโนโลยีและเงินลงทุน เพื่อขยายสู่ธุรกิจใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ อาทิ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดย่อม ก็มีความคืบหน้า คาดว่าน่าจะสามารถสรุปแนวทางการลงทุนได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
ส่วนโครงการรถเมล์ NGV นั้น บริษัทฯ ได้แสดงความสนใจมาตั้งแต่แรก โดยเฉพาะในส่วนของระบบสื่อสารอิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ มีความรู้ความชำนาญ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทฯ กำลังศึกษาและเจรจาอยู่ คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็สอดคล้องไปกับทิศทางและเป้าหมายในการสร้างรายได้ประจำและรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทสามารถ