(เพิ่มเติม) SAMARTคาด Q2/53 รายได้ดีขึ้นyoy-qoq, เชื่อปี 53 กำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 13, 2010 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART)คาดว่า รายได้ของกลุ่มสามารถในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมาย 2.5 หมื่นล้านบาท และจะมีกำไรสูงขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16-20% จากปีก่อนอยู่ที่ 14-15% ในปีนี้ โดยผลงานของบริษัทในกลุ่มเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะ บมจ.สามารถเทลคอม(SAMTEL) ขณะที่บริษัทเตรียมลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มเติม ซึ่งในปีนี้เตรียมลงทุนเบื้องต้นในธุรกิตโรงไฟฟ้าชีวมวลราว 1 พันล้านบาท

“เราได้มีการติดตามสถานการณ์ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับแผนงานรองรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา"นายวัฒน์ชัย กล่าว

ทั้งนี้ รายได้ของกลุ่ม SAMART ในช่วงไตรมาส 2/53 จะปรับตัวดีขึ้นทั้งเทียบกับไตรมาส 1/53 และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสายธุรกิจ Mobile Multi-media จะมีการเปิดตัวมือถือไอ-โมบายรุ่นใหม่อีกกว่า 20 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้านสายธุรกิจ ICT Solutions คาดว่าแนวโน้มธุรกิจด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมยังมีทิศทางบวก โดยจากนี้ไปจะมีงานที่เข้าร่วมประมูลอีกกว่า 6,000 ล้านบาท

นอกจาก ธุรกิจปัจจุบันที่มีเป้าหมายในการสร้างรายได้และกำไรสูงสุดแล้ว กลุ่มสามารถยังได้ศึกษาและเตรียมการทั้งทางด้านเทคโนโลยีและเงินลงทุน เพื่อขยายสู่ธุรกิจใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ อาทิ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดย่อม ก็มีความคืบหน้า คาดว่าน่าจะสามารถสรุปแนวทางการลงทุนได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลประมาณ 5-10 โรง แต่ละโรงมีกำลังการผลิต 1-5 เมกะวัตต์ ในช่วงแรกหรือภายในปีนี้จะลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลตอบแทนด้านการเงิน และรวบรวมพื้นที่ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยอาจจะร่วมทุน ซึ่งบริษัทจะถือหุ้นเกิน 50% หรืออาจดำเนินการเองทั้งหมดก็ได้

ส่วนโครงการรถเมล์ NGV นั้น บริษัทฯ ได้แสดงความสนใจมาตั้งแต่แรก โดยเฉพาะในส่วนของระบบสื่อสารอิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ มีความรู้ความชำนาญ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทฯ กำลังศึกษาและเจรจาอยู่ คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็สอดคล้องไปกับทิศทางและเป้าหมายในการสร้างรายได้ประจำและรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทสามารถ

*SAMTEL คาดครึ่งหลังปี 53 มีโอกาสได้งานใหม่อีก 5-6 พันลบ.

นายไพโรจน์ วโรภาษ รองประธานกรรมการบริหาร SAMTEL คาดว่าครึ่งหลังของปี 53 บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่อีก 5-6 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมีงานใหม่เข้ามาแล้ว 3 พันล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ราว 8 พันล้านบาท และ สิ้นปีจะมีงานในมือโอนไปรับรู้ในปีหน้าประมาณ 5 พันล้านบาท

การคาดการณ์ดังกล่าวยังไม่รวมงานประมูลขนาดใหญ่ เช่น งานโครงข่ายให้บริการ 3G ของบมจ.ทีโอที ที่มีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยังไม่มีกำหนดเปิดประมูลชัดเจน และยังมีโครงการอื่น ๆ อีกที่บริษัทคาดว่าจะมีโอกาสเข้าร่วมประมูลอีก

*SIM คาดทั้งปีรายได้ดีกว่าคาด

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ในส่วนของบมจ.สามารถ ไอ-โมบาย(SIM)รายได้ในไตรมาส 2/53 น่าจะได้มากกว่าไตรมาสแรก และรายได้ทั้งปีน่าจะดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากธุรกิจคอนเท้นท์ในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะจากกระแสฟุตบอลโลก

นอกจากนั้น จะมีการออกโทรศัพท์มือถือใหม่กว่า 20 รุ่น รวมทั้งไอ-โมบาย 3Gx ที่มีเป้าหมายเพิ่มยอดผู้ใช้บริการให้ได้ถึง 1 แสนรายในไตรมาส 2/53 จากสิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 7 หมื่นราย เชื่อว่าทั้งปีจะทำได้ตามเป้า 2 แสนราย และในไตรมาส 2/53 จะไม่มีสต็อกโทรศัพท์มือถือคงค้าง หลังจากทยอยนำออกขายไปหมดในไตรมาส 1/53

จากนั้นในช่วงไตรมาส 3/53 ยอดขายน่าจะเติบโตโดดเด่น โดยจะเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอินเดีย และ อินโดนีเซีย

"ในไตรมาส 3 สามารถไอโมบายน่าจะเติบโตโดดเด่นเพราะสามารถ contribute รายได้เข้ามาเยอะ ปีนี้น่าจะดีกว่าที่คาดไว้ เพราะเราโละสต็อกเก่าออกหมดได้ในไตรมาสแรก"นายวัฒน์ชัน กล่าว

อย่างไรก็ดี ในปีนี้ SIM จะสร้างรายได้ใหั้กับกลุ่มสามารถฯ ประมาณ 20% ขณะที่ SAMTEL ทำรายได้ให้กล่มฯในปีนี้ราว 30-40%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ