ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัท ซิสโก ซิสเต็มส์ และบริษัท โคห์ลส คอร์ป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 113.96 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 10,782.95 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 14.23 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 1,157.44 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 30.66 จุด หรือ 1.26% ปิดที่ 2,394.36 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.85 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดแรงงาน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวลดลง 4,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 444,000 จุด แต่ยังลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 440,000 ราย
ตัวเลขว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วสอดคล้องกับที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในช่วงก่อนหน้านี้ว่า อัตราว่างงานเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 9.9% ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังตึงตัวมาก และทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากบริษัท โคห์ลส คอร์ป ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ ซึ่งส่งผลให้หุ้นโคห์ลส ปิดร่วง 5.8% และฉุดหุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์ตัวอื่นๆดิ่งลงด้วย ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากบริษัท ซิสโก ซิสเต็มส์ คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทที่ค่อนข้างเป็นลบ ส่งผลให้หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ปิดร่วงลง 4.5%
หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนัก จากข่าวที่ว่านายแอนดรูว์ คูโม อัยการรัฐนิวยอร์กได้เข้าสอบสวนเพื่อหาหลักฐานว่า ธนาคารในสหรัฐ รวมถึง โกลด์แมน แซคส์ และธนาคารในเครือของแบงค์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ให้ข้อมูลเท็จต่อบริษัทจัดอันดับเครดิตเกี่ยวกับคุณภาพของตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) หรือไม่
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค.