นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE)เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/53 คาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะสูงกว่าไตรมาส 1/53 ที่มีรายได้อยู่ที่ 653 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายและราคาขายที่ปรับสูงขึ้น โดยคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 3.2-3.3 แสนตัน จากไตรมาส 1/53 ที่มียอดขาย 3.1 แสนตัน เพิ่มขึ้นตามความต้องการถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้นจากฐานลูกค้ารายใหญ่ทั้งในอุตฯอาหาร พลังงาน ปูน
บริษัทประมาณการยอดขายปี 53 อยู่ที่ 1.2 ล้านตัน หรือคิดเป็น 2,640 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ส่วนในปี 54 คาดว่าจะมีปริมาณขาย 1.44 ล้านตัน และปี 55 เพิ่มเป็น 1.68 ล้านตัน โดยประมาณการยอดขายเติบโตปีละ 20%
สำหรับอัตรากำไรสุทธิในปีนี้บริษัทประมาณการไว้ที่ระดับ 4% โดยไม่ปรับสูงขึ้นมาก ขณะที่ราคาถ่านหินปัจจุบันอยู่ในช่วง 2,200-2,300 บาท/ตัน และยังมีแนวโน้มราคายังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้ บริษัทยังมองหาตลาดส่งออกในต่างประเทศ โดยเน้นการขนส่งทางน้ำเป็นหลัก มีเป้าหมายส่งออกที่ประเทศจีน อินเดีย กัมพูชา เพราะควบคุมต้นทุนขนส่งได้ง่าย ซึ่งการขยายตลาดส่งออก คาดว่าจะมีความชัดเจนใน 1-2 ปีนี้
นายสมยศ กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมงบลงทุนในปีนี้ประมาณ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินหมุนเวียนจากกระแสเงินสดของบริษัทจำนวน 100 กว่าล้านบาท และกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์อีกประมาณ 300 กว่าล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างโรงงานคัดแยกถ่านหินระบบปิด 100% ที่ ต.ท่าแซ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3/53 รอการอนุมัติจากคณะกรรมกาบริษัทในในปลายเดือน พ.ค.นี้
โรงงานดังกล่าว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3/54 ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถลดต้นทุนได้มากโดยเฉพาะต้นทุนค่าขนส่ง หากโรงงานดังกล่าวสร้างเสร็จในครึ่งหลังปี 54 จะลดต้นทุนได้ 1.5% ก็จะทำให้ประมาณการอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 5.5% ในปี 54 จากปี 53 อยู่ที่ 4%
และในปี 55 ที่โรงงานเปิดดำเนินการโครงการลดต้นทุนนี้เต็มปีก็จะทำให้ประมาณการอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 7% เพราะสามารถลดต้นทุนได้ถึง 3%
"วันนี้อัตรากำไรสุทธิ 4% ถ้าโครงการใหม่เกิด earning ปรับขึ้นมาเกือบเท่าตัว เป็นภาพรวมในเชิงลดต้นทุน" นายสมยศ กล่าว