โบรกเกอร์ หนุน"ซื้อ"หุ้นบมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO)มองแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/53 จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1/53 หลังคำสั่งซื้อกลับมา และครึ่งปีหลังเชื่อจะดีต่อเนื่อง เพราะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา เพิ่มมาอีก 2 พันตัน/วัน ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นยัง Laggard หรือราคาหุ้นยังต่ำกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกัน
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.เอเซียพลัส ซื้อ 22.02 บล.กิมเอ็ง ซื้อลงทุน 21.00 สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ซื้อ 21.00 บล.ยูไนเต็ด ซื้อลงทุน 20.30
นางสาว นารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/53 ของหุ้นในกลุ่มเกษตและอาหารค่อนข้างดีทำให้ราคาหุ้นทั้งสองกลุ่มปรับตัวขึ้นไปรวมถึง TVO ก็ได้รับ sentiment นี้ไปด้วย
ทั้งนี้ ราคาหุ้น TVO ค่อนข้างนิ่ง ถ้าเปรียบเทียบกับตัวอื่น ราคารยังปรับตัวไม่สูง จึงทำให้นักลงทุนหันมาเล่น และมองว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/53 รวมไปถึงครึ่งหลังปี 53 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผานมา โดยในไตรมาส 2/53 ปริมาณการขาย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/53 ที่ชะลอตัว
อีกทั้ง โรงงานใหม่ก็จะเริ่มเดินเครื่องได้ในครึ่งปีหลังจะช่วยเพิ่มยอดขาย และช่วยลดต้นทุนการผลิตลง รวมทั้งช่วยประหยัดภาษีจากกรณีที่โรงงานใหม่ได้สิทธิบีโอไอ จึงเชื่อว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางดีขึ้น
"ราคาหุ้นถ้าเปรียบเทียบหุ้นตัวอื่น TVO ค่อนข้าง Laggard และช่วงนี้หุ้นกลุ่มนี้เป็นที่สนใจของนักลงทุนและในตลาดค่อนข้างมาก ทำให้หันมาสนใจหุ้นที่ยังไม่ค่อยเทรดมาก ก็กลายเป็นตัวดึงหุ้น TVO เพราะอย่างหุ้น CPF GFPT TUF ก็ขึ้นไปหมด เพราะฉะนั้นนักลงทุนก็หาหุ้นที่ยังไม่ค่อยปรับขึ้น" นางสาวนารี กล่าว
ทั้งนี้ หากเล่นเก็งกำไรก็พอเล่นได้เพราะยังมีช่องว่างอยู่จากราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ที่ 18.30 บาท แต่สำหรับนโยบายของ บล.ฟิลลิป หากราคาไม่สูงเกินกว่า 15% ของราคาพื้นฐานก็ไม่แนะนำเข้า"ซื้อ"เปลี่ยนมาให้ "ถือ" แทน
นักวิเคราะห์จากบล.ยูไนเต็ด กล่าวว่า เหตุผลให้"ซื้อลงทุน" เพราะในระยะสั้นมองว่าไม่มีปัจจัยบวกที่จะหนุนเรื่องผลการดำเนินงาน แต่เห็นว่าราคาหุ้นยังต่ำอยู่ หรือเทรดที่ P/E 8 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกันที่เทรด P/E ประมาณ 11-12 เท่า และ TVO ยังมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงประมาณ 8-9% ซึ่งจ่ายปีละ 2 ครั้ง
นอกจากนี้ มองว่าในไตรมาส 2/53 ผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวจากไตรมาส 1/53 โดยจากการที่คุยกับผู้บริหารบริษัท ให้ข้อมูลว่า คำสั่งซื้อในเดือนเม.ย.เติบโตขึ้น YoY และ QoQ ก็ฟื้นตัวดีขึ้น
บล.เอเชียพลัส มองว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงเวลาที่เหลือของปี 53 จะดีขึ้นตามลำดับ จากแรงผลักดันที่สำคัญ 2 ประการคือ คำสั่งซื้อที่ชะลอตัวในงวดไตรมาส 1/53 จะเริ่มกลับเข้ามาใหม่ หลังจากที่ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคากากถั่วเหลือง และเมม็ลดถั่วเหลืองไม่อ่อนตัวลง
และกำลังการผลิตส่วนเพิ่มอีก 2 พันตันถั่วเหลือง/วัน จะเดินเครื่องได้เต็มที่ในช่วงครึ่งหลังปี 53 โดยปัจจุบันอยู่ในช่วง Test Run ซึ่งคาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.53 และหลังจากนั้นจะผลิตได้เต็มที่นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจในประเทศจีน ก็น่าที่จะทำกำไรได้เต็มที่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบได้รับการแก้ไข
ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ"ซื้อ"หุ้น TVO โดยคาดหวังว่าจะเห็นผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปื เฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังปี 53 ซึ่งมีกำลังการผลิตส่วนเพิ่มเข้ามา สำหรับ Fair Value ยังคงไว้ที่ P/E 10 เท่าตามเดิม ซึ่งให้มูลค่าหุ้นเหมาะสม ณ สิ้นปี 53 ที่ 22.02 บาท ที่ระดับราคาหุ้นปัจจุบัน TVO ให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลในอัตรา 7 — 8% ต่อปีโดยจ่ายปีละ 2 ครั้ง
ทั้งนี้ TVO รายงานตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1/53 มีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% QoQ แต่ลดลง 16% YoY