นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.53 บริษัทฯ มีปริมาณ การผลิตผู้โดยสาร (ASK) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.36 % ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.94 % มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 78.90% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.19 %
เฉพาะเดือนเม.ย.53 บริษัทฯ มีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (Available Seat per Kilometer /ASK) ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 2.89 % และต่ำกว่าเดือนมี.ค.53 อยู่ 9.43 % ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue per Kilometer/RPK) ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 1.49 % และต่ำกว่าเดือนมี.ค.53 อยู่ที่ 17.04 % มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 72.15 % สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 1.45 % ต่ำกว่าเดือนมี.ค.53 อยู่ 8.40 %
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้ ได้รับทราบผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/53 (1 ม.ค.-31 มี.ค.53) บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 49,806 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8,536 ล้านบาท หรือ 20.7%
ค่าใช้จ่ายรวมส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและต้นทุนทางการเงิน มีจำนวนทั้งสิ้น 38,498 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 5,292 ล้านบาท หรือ 15.9% สาเหตุสำคัญเนื่องจากปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันเครื่องบินโดยเฉลี่ยสูงขึ้น
ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 10,724 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 6.31 บาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 7,869 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 4.63 บาท และมี EBITDA เท่ากับ 11,469 ล้านบาท
และ จากการที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 52 ทำให้ความต้องการเดินทางและการขนส่งสินค้ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1/53 เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 17.7% และ 54.4% ตามลำดับ โดยเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในเดือนมี.ค.53 ยังไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารในไตรมาสนี้
ณ วันที่ 31 มี.ค.53 บริษัทและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 278,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค.52 จำนวน 6,369 ล้านบาท โดยมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 214,075 ล้านบาท ลดลง 4,375 ล้านบาท และ ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 63,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,744 ล้านบาท