บมจ.มิลล์คอนสตรีลอินดัสทรีส์ (MILL) มั่นใจสิ้นปีนี้รายได้แตะ 1.2 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมาย จากราคาเหล็กพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาสแรกทำรายได้เพิ่มขึ้นและคาดว่าในไตรมาส 2/53 จะดีต่อเนื่อง
นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร MILL กล่าวว่า แนวโน้มของราคาเหล็กในอนาคตยังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความต้องการใช้เหล็กของลูกค้าในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลบวกต่อธุรกิจอย่างมาก โดยในปัจจุบัน MILL มี Backlog order อยู่ที่ประมาณ 80,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต จึงคาดว่าจะผลักดันให้รายได้ในปีนี้ของบริษัทฯ แตะที่ระดับ 12,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 10 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1/53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 33.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 138.17 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 52 สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารงานที่เพิ่มขึ้น รายได้จากการขายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น
และ MILL ยังคงเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ไปพร้อม ๆ กับพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มี value Added และตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด นอกจากนั้นก็ยังมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม ด้วยการลดต้นทุนในการผลิตให้ต่ำที่สุด เพิ่มมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
"ผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 138% ... และสำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่ายังจะขยายตัวดีต่อเนื่องจากปัจจัยบวกที่สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้เหล็กที่มีต่อเนื่อง และการบริหารจัดการภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพของ MILL เอง" นายสิทธิชัย กล่าว