นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.นวนคร (NNCL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า จากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองและมีความวุ่นวายเกิดขึ้นขณะนี้ยอมรับว่า หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อและเลวร้ายลง อาจส่งผลต่อลูกค้าใหม่ของบริษัทที่จะชะลอการตัดสินใจซื้อ หรือเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งไม่เพียงเฉพาะบริษัทแต่มองว่าจะส่งผลต่อบริษัทอื่นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้มองว่าในไตรมาส 2/53 การเซ็นสัญญาซื้อที่ดินของบริษัทยังคงมีต่อเนื่อง แต่คงไม่มากเหมือนไตรมาส 1/53 ที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินกับลูกค้าไปแล้ว มูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/53 คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญากับลูกค้ามูลค่าไม่ถึง 100 ล้านบาท
ส่วนไตรมาส 3-4/53 ยอมรับว่ามีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่จะทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจเซ็นสัญญา และอาจทำให้ภาพรวมรายได้ในครึ่งหลังปี ทำรายได้น้อยกว่า ครึ่งปีแรก
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยรวมถึงภาคธุรกิจ และผลที่เกิดขึ้นน่าจะกระทบต่อบริษัทที่ลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาเซ็นสัญญา หรือซื้อที่ดิน หรือลูกค้าเดิมที่จะขยายกำลังการผลิต ลังเลตัดสินใจ และจะกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังธุรกิจอื่นเช่นการใช้สาธารณูปโภค น้ำไฟ ดังนั้นลึกๆหวังว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว เพื่อให้ลูกค้ากลับมา" นายนิพิฐ กล่าว
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทชัดเจน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเซ็นสัญญาล่วงหน้าไว้ และขณะนี้ยังไม่มีรายใดยกเลิกการเซ็นสัญญา ดังนั้นทั้งปี มองว่าการเมืองอาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทจำนวนไม่มาก
นายนิพิฐ กล่าวอีกว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยที่สื่อไปทั่วโลก และเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย ที่อาจกระทบเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่มองว่าอาจได้รับผลกระทบใน 3 เดือนข้างหน้า