หุ้น SUC ราคาพุ่งพรวดขึ้น 7.26% มาอยู่ที่ 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 62.18 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.35 น. โดยเปิดตลาดที่ 30.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 35.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 30.50 บาท
บ่ายนี้ บมจ.สหยูเนี่ยน(SUC)และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/53 มีกำไรสุทธิ 645.94 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.23 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.93 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.08 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 623.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2,717
สาเหตุหลักมาจากรายการกำไรจากการจำหน่ายที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้น 579.57 ล้านบาท เกือบทั้งหมดมาจากการจำหน่ายที่ดินบางส่วนของบริษัทย่อย ชื่อ บริษัท ยูเนี่ยนอุตสาหกรรมสิ่งทอ จำกัด (มหาชน) (UT) ซึ่งกำไรจากการขายที่ดินดังกล่าว เกิดขึ้นครั้งเดียวในไตรมาสนี้ ไม่ใช่กำไรจากการดำเนินงานตามปกติ
รายการเงินปันผลรับเพิ่มขึ้น 132.07 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทฯ ได้รับเงินปันผลจากเงินลงทุนอื่นๆเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเป็นปีแรกที่ได้รับเงินปันผลจาก บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด จำนวน 180 ล้านบาท
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 135.88 ล้านบาท เนื่องจากมีธุรกรรมการขายที่เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนขายเพิ่มในสัดส่วนที่น้อยกว่า ส่วนรายการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 37.86 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากบริษัทย่อยหลายแห่งได้พยายามปรับปรุงลดค่าใช้จ่ายด้านนี้
นอกจากนั้น ไตรมาส 1/53 สภาวะราคาตลาดของหลักทรัพย์ทั่วโลกดีขึ้น จึงทำให้เมื่อวันสิ้นงวดผลการปรับปรุงมูลค่าของเงินลงทุนเพื่อค้าในต่างประเทศ เกิดผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้วน้อยลง 91.68 ล้านบาท ส่งผลให้ความแตกต่างของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นด้วยจำนวนดังกล่าว
รายการค่าเผื่อการด้อยค่าของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มีจำนวนลดลง 23.75 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ของปีที่แล้ว บริษัทย่อย ชื่อ บริษัท ยูเนี่ยนพลาสติก จำกัด (มหาชน) มีการบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์จำนวน 22.86 ล้านบาท แต่ปีนี้มีการบันทึกเพียง 1.9 ล้านบาท