ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ดิ่ง 376.36 จุดเหตุวิตกตัวเลขว่างงานสหรัฐ-ปัญหาหนี้ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 21, 2010 06:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยดัชนีดิ่งลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สินในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน และข่าววุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติอย่างเป็นทางการเพื่อผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปการเงิน ซึ่งข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 376.36 จุด หรือ 3.60% ปิดที่ 10,068.01 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 43.46 จุด หรือ 3.90% ปิดที่ 1,071.59 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 94.36 จุด หรือ 4.11% ปิดที่ 2,204.01 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปอาจลุกลามในวงกว้างและส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก โดยกระแสความกังวลในเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีข่าวว่า สหภาพการค้าของกรีซรวมตัวประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลกรีซ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประท้วงถึง 1 แสนคน และทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังที่เกิดเหตุประท้วงที่รุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คนในกรุงเอเธนส์ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 471,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ และเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน

ขณะที่สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ลดลง 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

นอกจากนี้ ตลาดได้รับปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติอย่างเป็นทางการเพื่อผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปการเงิน หลังจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปการเงิน ด้วยคะแนนเสียง 13 ต่อ 10 แต่เนื่องจากร่างกฎหมายปฏิรูปการเงินจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเต็มคณะ จึงทำให้คณะกรรมาธิการฯของวุฒิสภานำร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมาอธิปรายอีกครั้ง และจะมีการลงมติอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันศุกร์นี้

ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะยกเครื่องระบบการธนาคาร เพื่อลดความเสี่ยงที่สหรัฐจะกลับไปเผชิญกับวิกฤตการณ์การเงินที่รุนแรงเหมือนกับในช่วง Great Recession โดยร่างกฎหมายครอบคลุมถึงการจำกัดขนาดของสถาบันการเงินในกลุ่มที่ถูกระบุว่า "too big to fail" เนื่องจากสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่เกินไปนั้น เมื่อถึงคราวที่ประสบปัญหาก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ร่วงลงหนักสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ