นักวิเคราะห์บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างจะได้รับผลดีในช่วงสั้น หลังจากมีการเผาทั่วกรุงเทพฯขนาดใหญ่และจำเป็นต้องมีการฟื้นฟู รวมทั้งตามหัวเมืองสำคัญในต่างจังหวัด
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปูฯซีเมนต์ ในช่วงสั้นเท่านั้น เพราะภายหลังการฟื้นฟูต้องดูว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและสามารถชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เสียหายไปหรือไม่ รวมทั้งปัญหาการเมืองจะจบได้จริงหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในอนาคต
นอกจากนั้น หุ้นกลุ่มเหล็กยังมีความเสี่ยงหลังจากที่ทิศทางเหล็กในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลงจากที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และหุ้นเหล็กยังมีความเสี่ยงจากการที่ราคายังคงมีความผันผวนสูง
ด้านนักวิเคราะห์บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีในช่วงสั้นจากการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายถูกเผาทำลาย แต่ยังมองว่าไม่คุ้มกับการที่ประเทศได้รับผลกระทบทางการเมืองทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่อาจล่าช้าออกไปจากปัญหาการเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม หุ้น SCC ยังได้รับผลดีจากความต้องการใช้ปูนยังคงดี การฟื้นตัวของธุรกิจปิโตรเคมี โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 284.50 บาท
หุ้นเหล็กที่เด่น คือ SSI หลังสถานการณ์โดยรวมของบริษัทเริ่มดีขึ้น โดยแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 2.17 บาท และ MCS เนื่องจากผลประกอบการปีนี้โตอย่างก้าวกระโดดแต่ปีหน้าอาจไม่ดีนักให้ราคาเป้าหมายที่ 6.62 บาท
นอกจากนี้ TASCO ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ขายทั้งในประเทศและต่างประเทศน่าจะเติบโตสูงจากรายได้ในประเทศมาเลเซีย แม้ว่าอาจได้รับผลกระทบจากโครงการถนนปลอดฝุ่น เฟส 2 ที่อาจล่าช้าออกไปจากปัญหาการเมือง แต่ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 41.58 บาท