นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ซี.พี.ออลล์(CPALL)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างประเมินเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดการจลาจลขึ้นหลายจุดทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดว่าจะส่งผลกระทบต่อสาขาของบริษัทมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะจากกรณีที่สาขาบางแห่งได้รับความเสียหาย รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคและความมั่นใจของผู้บริโภคว่าจะกลับมาใช้จ่ายปกติหรือไม่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 เดือนในการพิจารณา
แต่ผลกระทบในด้านบวกที่เห็นได้ชัด คือช่วงที่ผ่านมาสาขา CP 7-11 ขายสินค้าได้มากขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค
"ตอนนี้จะให้ประเมินว่าเป็นอย่างไรจากผลกระทบเหตุการณ์ชุมนุมคงเร็วเกินไปคงต้องใช้เวลา และดูว่ากำลังซื้อผู้บริโภค ความมั่นใจกลับมาแค่ไหน เพราะเชื่อว่าผู้บริโภคตอนนี้ได้รอดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศมากน้อยแค่ไหนในช่วงหลังจากนี้" นายเกรียงชัย กล่าว
แม้สถานการณ์ความรุนแรงจะเกิดขึ้น แต่ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกำลังซื้อในอนาคตที่เชื่อว่าขยายตัว โดยในปีนี้จะมีการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง 400-500 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากในช่วงปลายปีก่อนที่มีสาขาประมาณ 5,200 สาขา คาดว่าจะใช้งบลงทุนในการขยายสาขาใหม่รวมประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเม็ดเงินลงทุนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังจะสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น ในภาคใต้เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งจากเดิมต้องขนส่งสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าที่บางบัวทองคาดใช้งบลงทุนอีก 500 ล้านบาท อีกทั้ง ยังเป็นการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้ทั่วถึงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้มีการปรับเป้ายอดขายในปี 53 ที่ตั้งเป้าไว้โต 10-15% จาก 1.1 แสนล้านบาทในปี 52 แม้จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศช่วงที่ผ่านมา โดยยอดขายเฉลี่ยในร้านเดิมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและจากการขยายสาขาใหม่ดังกล่าวก็จะเป็นการเพิ่มยอดขายในอนาคตด้วย