ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ร่วงต่อเนื่องไปแล้วกว่า 2% เป็นผลจากปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสำคัญในเอเชียที่เปิดทำการแล้วเช้านี้ปรับตัวลงถ้วนหน้าตามดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ลงไปแรงเมื่อคืนนี้ ขณะที่ประเด็นการเมืองในประเทศยังต้องติดตามการแก้ไขสถานการณ์และความเสียหายจากเหตุการณ์จลาจลหลายพื้นที่ในกทม. ประกอบกับวานนี้ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยสูงถึงกว่า 7 พันล้านบาท และในวันนี้วัยมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 10.11 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 734.04 จุด ลดลง 10.27 จุด (-1.38%)
ล่าสุดเมื่อ 111.09 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 729.23 จุด ลดลง 15.08 จุด (-2.03%)
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นผลจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคต่างร่วงกันหมด โดยส่วนใหญ่ปรับตัวลงไป 2-3% ซึ่งการปรับตัวลดลงของตลาดบ้านเรายังดูดีกว่าภูมิภาค ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากความกังวลปัญหาหนี้สินจะลุกลามไปในทวีปยุโรป และอาจฉุดเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวช้าดังนั้น เวลานี้นักลงทุนต่างประเทสเริ่มลดพอร์ตที่ไปลงทุนไว้ในประเทศต่าง ๆ ทำให้เกิดแรงขายขึ้นในภูมิภาค
ส่วนปัจจัยในประเทศก็ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้กลับสู่ภาวะปกติ เพียงแต่เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/53 คงจะมีหลายจุดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องติดตามดูต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 734, 728 จุด แนวต้าน 750, 752 จุด