นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ประจำไตรมาส 2/53 ว่า ปัจจุบัน ก.ล.ต. มีนโยบายผ่อนคลายให้ บล. สามารถทำธุรกรรมได้หลากหลายขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้มีรายได้ด้านอื่นนอกเหนือจากการพึ่งพารายได้ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้ บล. ลงทุนในตราสารทางการเงินต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้โดยไม่จำกัดประเภทของสินค้าและตัวแปรอ้างอิง เป็นต้น เมื่อการลงทุนของพอร์ต บล. มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น การบริหารความเสี่ยงในการลงทุนจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการลงทุนและกระทบกับฐานะของ บล.
ทั้งนี้ ก.ล.ต. จึงจะกำหนดให้คณะกรรมการของ บล. ต้องรับทราบว่า บริษัทมีความเสี่ยงจากการลงทุนในเรื่องใดบ้าง มีวิธีการบริหารความเสี่ยงอย่างไรและควบคุมดูแลการลงทุนของบริษัทด้วย นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ขอให้สมาคมจัดทำมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงให้แล้วเสร็จภายในปี 53 เพื่อให้ บล. นำแนวทางไปปฏิบัติต่อไป
นายธีระชัย กล่าวว่า สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เกิดขึ้นส่งผลให้ บล.จะต้องปรับตัวอยู่เสมอ โดยต้องมีแผนการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ บล. สามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง และยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้เทียบเท่าสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแผนการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนมีความคืบหน้ามากขึ้น ก.ล.ต. จึงขอให้ บล. เตรียมพร้อมและขอให้นำอุปสรรคและปัญหาในการดำเนินธุรกิจหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อช่วยกันหาแนวทางที่จะผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ไปได้อย่างราบรื่น
ด้านนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมกระตุ้นเตือนให้สมาชิกตระหนักถึงผลกระทบของการเชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยสมาคมได้ทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเตรียมตัวในเรื่องนี้ ซึ่งได้แก่ การเตรียมความพร้อมด้านระบบ ด้านกฎระเบียบ ด้านปฏิบัติการ และด้านการตลาด ซึ่งรวมถึงการทำความรู้จักโบรกเกอร์ในภูมิภาคนี้ โดยสมาคมมีโครงการร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะนำ บล.ไทย ไปพบปะกับ บล. มาเลเซียในช่วงเดือน ก.ค. นี้