โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุด ปัจจัยพื้นฐานดี มีความสามารถการแข่งขันดีที่สุดในด้านโครงข่ายและลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีคุณภาพ อีกทั้งมีจุดเด่นที่การจ่ายเงินปันผลสูง คาดปีนี้จ่าย 6.30 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 8.6% และราคาปัจจุบันได้ปรับตัวลงมามากแล้ว
แม้ว่า ADVANC จะรับผลกระทบจากการเมืองจากเหตุการณ์จลาจลบ้าง แต่รายได้บริการข้อมูล(non-voice)น่าจะมีการเติบโตมาก อาจโตได้ถึง 20-30% พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 53 ในช่วง 16,397-19,525 ล้านบาท (ไม่รวมบันทึกการด้อยค่าของ DPC)เมื่อเทียบกับปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 17,055 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ผลงานไตรมาส 1/53 ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้โบรกฯอาจปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นได้ แต่ต้องรอดูไตรมาส 2/53 ก่อนว่ารับผลกระทบจากการเมืองมากหรือไม่ แต่โบรกฯส่วนใหญ่เชื่อว่าทั้งปีนี้กำไรจะสูงกว่าปีก่อน เนื่องจากรายได้รวมเติบโตราว 3% ขณะที่ความสามารถการทำกำไรดีขึ้นจากผลของการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และมีแผนใช้งบลงทุนค่อนข้างน้อยในปีนี้
สำหรับประเด็น 3G หากมีความคืบหน้าก็จะช่วยผลักดันราคาหุ้นขึ้นไปได้ เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงมารับข่าวร้ายไปมากแล้ว แต่คาดว่าการประมูลน่าจะเกิดขึ้นในปี 54 มากกว่า โดยช่วงครึ่งหลังปีนี้คงเห็นได้แค่การทำร่างหลักเกณฑ์(IM)เท่านั้น อีกทั้ง กทช.อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ก็จะส่งผลกระทบต่อกรอบเวลาการประมูลด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
Merrill Lynch ซื้อ 100.00
บล.ทิสโก้ ซื้อ 112.00
บล.ภัทร ซื้อ 100.00
บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 104.30
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 100.00
บล.กสิกรไทย ซื้อ 106.00
บล.โกลเบล็ก ซื้อ 100.00
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 102.00
บล.บัวหลวง ซื้อ 125.00
บล.พัฒนสิน ซื้อ 117.00
บล.ทรีนีตี้ ซื้อเมื่ออ่อนตัว 90.00
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ มองจุดเด่นหุ้น ADVANC อยู่ที่การจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและค่อนข้างสูง คาดว่าปีนี้จะจ่ายได้ 6.30 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 8.6% ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันปรับตัวลงมามากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อราคาปรับตัวลงมาแถว 70 บาทจะน่าสนใจ เวลานี้หุ้น ADVANC มองเป็นหุ้น"เทรดดิ้ง"ได้
"หากมีความคืบหน้าหรือกรอบเวลาในเรื่องของ 3G หุ้นก็จะถูกผลักดันได้ เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมารับข่าวร้ายมากแล้ว และกว่าจะดีอีกทีก็ช่วงไตรมาส 4/53 ดังนั้นสามารถทยอยสะสมได้ในช่วงไตรมาส 2-3"นายกิจพล กล่าว
อนึ่ง วันนี้ กทช.แถลงความคืบหน้าการให้ใบอนุญาต 3G คาดว่าจะเปิดรับคำขอและพิจารณาคุณสมบัติขั้นต้นในเดือน ส.ค.นี้ จากนั้น จะเป็นขั้นตอนการออกใบอนุญาตเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.นี้
ADVANC มีข้อดีในแง่แนวโน้มการเติบโตของรายได้ non-voice ที่เติบโตขึ้นมาเป็น 16.5% ของรายได้รวม และมีโอกาสที่จะเติบโตได้ถึง 20-30% ต่อปี จึงถือว่ารายได้จาก non-voice มีการเติบโตที่ดีมากในเวลานี้ จะช่วยทดแทนรายได้ voice ที่ค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว เพราะเติบโตได้ประมาณ บวก/ลบ 3% ต่อปีเท่านั้น
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ ADVANC ในปี 53 ไว้ที่ 16,397 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 52 เนื่องจากต้นทุนให้บริการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี จากผลประกอบการในงวดไตรมาส 1/53 ออกมาเข็งแกร่ง อาจทำให้มีการปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้นได้
ขณะที่ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า ADVANC มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ถือได้ว่ามีความสามารถในการแข่งขันดีที่สุดในด้านโครงข่าย และลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีคุณภาพ ยกเว้นแต่มีประเด็นกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัมปทานที่เวลานี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา ตรงนี้อาจส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนได้
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ของ ADVANC ไว้ที่ 19,525 ล้านบาท(ไม่รวม goodwill ของ DPC ที่คงเหลือ 2,700 ล้านบาท)เพิ่มขึ้น 13% จากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 17,055 ล้านบาท เป็นผลจากความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น เนื่องจากการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีและมีงบลงทุนค่อนข้างน้อยในปีนี้ โดยคาดว่ารายได้รวมของ ADVANC ในปีนี้น่าจะเติบโต 3% เน้นการเติบโตของ non-voice มากกว่า แต่รายได้หลักก็ยังมาจาก voice
สำหรับกรณีการประมูล 3G มองว่าเร็วสุดก็จะเป็นช่วงไตรมาส 4/53 แต่คิดว่าน่าจะเป็นปีหน้ามากกว่า โดยช่วงครึ่งหลังปีนี้คงจะเห็นได้แค่ IM เท่านั้น นอกจากนี้ในเดือน ก.ย.53 กทช.อาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากครบอายุ 6 ปี เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้องเปลี่ยน 3 คนหรือเปลี่ยนทั้งชุด 7 คนเลย อาจทำให้กรอบเวลาประมูล 3G ต้องเปลี่ยนออกไปอีก
น.ส.รัศดา ทวีแสงสกุลไทย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ADVANC เป็นบริษัทใหญ่สุดในธุรกิจมือถือ แม้ว่าจะรับผลกระทบจากการเมืองบ้าง แต่รายได้จาก non-voice น่าจะมีการเติบโตมากในปีนี้
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ไว้ที่ 17,779 ล้านบาท(ไม่รวมบันทึกการด้อยค่าของ DPC ประมาณ 1,068 ล้าบาท)เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว(2552)ที่มีกำไรสุทธิ 17,055 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิของ ADVANC อาจจะมีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากงบไตรมาส 1/53 ออกมาดี แต่ก็คงต้องรอดูงบฯไตรมาส 2/53 ก่อนว่าจะรับผลกระทบจากการเมืองมากหรือเปล่า
สำหรับการประมูล 3G ที่มีข่าวออกมาในวันนี้ก็ต้องรอดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีกรอบเวลาออกมาชัดเจนก็น่าจะทำได้เร็วขึ้น ซึ่งก็จะส่งแรงดันให้กับหุ้นได้ด้วย เพราะปัจจุบันทุกแห่งได้ทำ 3G ไว้อยู่แล้วบนคลื่นความถี่เดิมที่ทำอยู่