คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ยืนยันมติ กทช.เดิมที่กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดค่าโทรในเครือข่าย(ออนเน็ต) และค่าโทรนอกเครือข่าย(ออฟเน็ต) ในราคาเท่ากัน แต่เปลี่ยนวันมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.53 จากเดิมที่มีผลเมื่อต้นพ.ค.ที่ผ่านมา และจะไม่มีผลย้อนหลัง
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการทำโปรโมชั่นยาวถึงปลายปี ให้ตัดมาใช้ถึงสิ้น ส.ค.นี้ ทั้งนี้เพื่อให้การประกาศใช้การคงสิทธิเลขหมาย (Number portability) ในวันที่ 1 ก.ย. ไม่มีปัญหาและสร้างความสับสนในกลุ่มผู้บริโภค
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ รักษาการเลขาธิการ กทช.เปิดเผยหลังการหารือกับผู้ประกอบการ 8 รายวันนี้ว่า จากการร่วมหารือกับผู้ประกอบการที่ต้องการให้การคิดค่าโทรออนเน็ตและออฟเน็ตต่างกันนั้น ทาง กทช.สรุปทึ่ให้มติ กทช.ที่ให้คิดค่าโทรทั้งออนเน็ตและออฟเน็ตในราคาเดียวกันมีผลบังคับใช้แต่ให้เลื่อนผลบังคับใช้ไปเป็น 1 ก.ย.พร้อมกับการบังคับใช้ในการคงสิทธิเลขหมาย โดยระหว่างนี้จนถึง 31 ส.ค.53 โอเปอเรเตอร์ยังสามารถใช้โปรโมชั่นที่ขายไปก่อนหน้านี้ได้ และไม่ให้ขายในราคาโปรโมชั่นเดิมต่อไปอีก
"ถ้าออนเน็ต กับ ออฟเน็ต ราคาไม่เท่ากัน จะมีปัญหาแน่นอน เพราะ 1 ก.ย.จะมีผลบังคับใช้เรื่องคงสิทธิเลขหมาย ซึ่งก็จะไม่รู้ว่าโทรข้ามเครือข่าย ในเครือข่าย และจะเกิดความสับสนมาก"นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ ทางโอเปอเรเตอร์ และทาง กทช.ในส่วนสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค ทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วถึง ในเรื่องดังกล่าว
ปัจจุบัน ผู้ให้บริการรายใหญ่ ได้แก่ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC ) , บมจ.โทเทิ่ล แอคเซส คอมมูนิเกชั่น (DTAC) และ ทรูมูฟ บริษัทในเครือบมจข.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ตกลงจ่ายค่าไอซี ต่อกันในราคานาทีละ 1.00 บาท
อนึ่งในวันนี้ ผู้ประกอบการ 8 รายที่เข้าร่วมหารือกับ กทช.ได้แก่ ADVANC, DTAC, ทรูมูฟ, ดิจิตอลโฟน, TRUE, ทีทีแอนด์ที, ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม