นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สมบูรณ์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยว่า บริษัทจะปรับเป้ายอดขายปี 53 เพิ่มขึ้น เป็นการเติบโตมากกว่า 40% จากเดิมที่ตั้งเป้ายอดขายที่ 40% เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นและคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน จากปีก่อนที่มียอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.4 ล้านคัน
นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากการผลิตรถอีโคคาร์ของค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัทมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
และคาดว่าในปี 54 ยอดการผลิตรถยนต์จะเติบโต 10%จากปี 53 และจะส่งผลต่อยอดขายของบริษัทในปี 54 เติบโตอย่างน้อย 10% ด้วยเมือ่เทียบกับยอดขายปี 53 และบริษัทยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิตชิ้นส่วนให้รถคูโบต้า ถือเป็นออเดอร์ที่ต่อเนื่องจากปีนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายอดขายไตรมาส 2/53 อาจลดลงประมาณ 7% จากไตรมาส 1/53 ที่มียอดขาย 1,500 ล้านบาท เนื่องจากเป็นไตรมาสที่มีวันหยุดมาก และยังมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ทำให้ลูกค้าไม่สามารถทำงานสั่งซื้อสินค้าได้ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะสามารถเริ่มให้พนักงานทำงานล่วงเวลา (โอที) เพื่อชดเชยจากวันหยุดจากผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองได้ โดยจะมีการเพิ่มชั่วโมงการทำงานในการผลิต 550-600 ชั่วโมง/เดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 500 ชั่วโมง/เดือน
ขณะที่ในไตรมาส 3/53 เชื่อว่ายอดขายของบริษัท จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1-2/53 เนื่องจากเป็นช่วงที่ดีที่สุดของบริษัท และจากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น ในปีนี้ปรับสูงขึ้นด้วย เป็น 22-23% จากปีก่อนอยู่ที่ 17.86%
และในปีนี้ บริษัทได้จัดงบลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท ได้ทยอยใช้เงินลงทุนบ้างแล้ว เพื่อรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และขณะนี้ได้มีออเดอร์ผลิตเพลาข้างรถยนต์ให้ค่ายรถ GM จึงทำให้อาจมีการเพิ่มไลน์การผลิตเพิ่มป้อนสินค้าให้ค่ายรถ GM ในปี 54 ด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท
อนึ่ง สัดส่วนลูกค้าของบริษัทจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ประกอบด้วย ค่ายมิตซูบิชิ 37% โตโยต้า 26% อีซูซุ 8% ฮอนด้า 7% AAT 6% และคูโบต้า 5%