ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันและราคาโลหะมีค่า ซึ่งการร่วงลงของหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ฉุดรั้งให้ดัชนีปิดเคลื่อนไหวในแดนลบ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ลดลง 6.74 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 5,188.43 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลต่อวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปที่กำลังลุกลามขยายวงกว้าง ซึ่งภาวะดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อตลาดสินเชื่อทั่วโลก และบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก และล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับเครดิตของสเปนลงมาอยู่ที่ AA+ จากระดับ AAA
ขณะเดียวกัน การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ซบเซาก็สร้างปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นลอนดอนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะรายงานยอดการใช้จ่ายผู้โภคบริโภคของสหรัฐในเดือนเม.ย.ที่ทรงตัว เนื่องจากชาวอเมริกันนำเงินรายได้มาเก็บไว้เป็นเงินออมมากขึ้น
นอกจากนี้ สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในเขตชิคาโก้ลดลงมาอยู่ที่ 59.7 จุดในเดือนนี้ หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 63.8 จุด ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หุ้นบีพีดิ่งลง 5% ในขณะที่บริษัทกำลังรับมือกับกับการอุดรอยรั่วของท่อน้ำมันใต้ทะเลลึกในบริเวณอ่าวเม็กซิโก ซึ่งทำให้ขณะนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหานี้กว่า 930 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองรายใหญ่ที่สุดในโลกทรุดตัวลง 1.3% ตามราคาอลูมิเนียม ทองแดง นิกเกิลในตลาดซื้อขายโลหะลอนดอนที่ปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า