บมจ.ล่ำสูง (LST) ปรับเป้ารายได้ ปี 53 เหลือไม่เติบโต หรืออยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 6.9 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 8% หลังจากประเมินความต้องการน้ำมันปาล์มในประเทศปรับตัวลงเหลือประมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร มีความต้องการลดลงจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศหายไปจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง
“ตอนต้นปีเราคิดว่ารายได้เราจะโต 8% แต่สถานการณ์เปลี่ยน ตอนนี้แค่ทำได้เท่าปีที่แล้วก็พอใจแล้ว ส่วนมาร์จิ้นและกำไร ต้องดูสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ขึ้นอยู่ว่าเราจะบริหารได้ดีแค่ไหน ถ้าซื้อได้ในราคาถูกต้องตลอดเวลา ต้นทุนตามตลาดโลก กำไรก็ดีจะดี"นายสมชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อนึ่ง ในปี 52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 358.33 ล้านบาท
นายสมชัย กล่าวว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ(CPO)ในตลาดโลก เป็นปัจจัยหลักทีมีผลต่อผลประกอบการ หากยังมีราคาปรับตัวสูงขึ้นทำให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ราคาในประเทศยังไม่สามารถปรับขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบได้ โดยเห็นได้จากในไตรมาสแรกที่ผ่านมาราคา CPO พุ่งขึ้นไปสูงถึง 2,700 ริงกิต/ตันตามตลาดในมาเลเซีย ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/53 ลดลงจากปีก่อน 15.% มาอยู่ที่ 102.31 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ราคาตลาดโลกปรับตัวลงมาที่ระดับ 2,530-2,540 ริงกิต/ตัน โดยทรงตัวมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากตลาดวิตกปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป ที่ลุกลามจากกรีซ ไปยังสเปน และโปรตุเกส แต่ขณะนี้ยอมรับว่าประเมินได้ยาก เพราะไม่รู้ทิศทางเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างไร ซึ่งต้องติดตามต่อไป จึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่า แนวโน้มกำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนหรือไม่