นายวีระ ศรีธนะชัยโชติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ปริญสิริ(PRIN) เปิดเผยว่า ในปีนี้โอกาสที่จะมีพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทคงจะมีน้อยลง แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีทั้งผู้สนใจจากในและต่างประเทศเข้ามาเจรจา เนื่องจากฐานะการเงินบริษัทแข็งแกร่งมากขึ้นและผลการดำเนินงานดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ความจำเป็นมีน้อยลง ดังนั้น เรื่องนี้จึงขึ้นกับจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม
"ปีนี้คงจะยากขึ้นในการที่จะเราจะมีพันธมิตร ไม่เหมือนกับปีก่อนที่จะหาง่าย เพราะตอนนี้ทุกอย่างเราดีขึ้น ผู้ถือหุ้นคงจะไม่ยอมง่าย ๆ ราคาที่คิดจะขายก็คงไม่เหมือนปีที่แล้ว หรือแม้แต่การเพิ่มทุนเอง ถ้าจะเพิ่มทุนก็คงไม่เห็นจากผู้ถือหุ้นรายเดิม"นายวีระ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
บริษัทยังคงเป้ารับรู้รายได้ในปี 53 ที่ตั้งไว้ 5 พันล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 50-55% มาจากโครงการคอนโดมิเนียม และที่เหลือมาจากการโครงการแนวราบ ถึงแม้ผลประกอบการที่ผ่านมาจะปรับตัวดีขึ้น และเชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับการเร่งเปิดโครงการที่เหลือ ประมาณ 3-4 โครงการภายในปีนี้ ซึ่งบริษัทมีที่ดินพร้อมอยู่แล้ว หลังจากเปิดตัวไปแล้ว 3-4 โครงการ จากทั้งปีมีแผนเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 7 โครงการ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังจะพยายามเร่งเปิดโครงการย่านท่าข้าม พระราม 2 ให้ทันปีนี้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ราคา 4-6 ล้านบาท จากเดิมมีแผนจะเปิดตัวในปีหน้า เนื่องจากงบประมาณทำถนนของรัฐในพื้นที่ดังกล่าวเข้ามาเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะส่งผลยอดรับรู้รายได้เกิดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทปรับกลยุทธ์ด้วยการไม่ซื้อที่ดินเก็บไว้ ช่วยให้บริษัทไม่มีหนี้สิน เทียบกับปีก่อนที่บริษัทต้องมีภาระหนี้ที่เกิดจากสต็อกที่ดินเปล่ามากเกินไป เชื่อว่าเป็นมุมมองบวกต่อนักลงทุน