นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคัล (SGP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการทำธุรกิจก๊าซ LNG และธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปี 54 โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าอาจเป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตร
"เรายังเชื่อว่าปีนี้เรายังมียอดขายที่ดี และกำไรน่าจะเติบโตสอดคล้องกับยอดขาย ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากในปีนี้ได้ทยอยรับรู้รายได้จากเวียดนามเข้ามาเพิ่มอีก รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ" นางจินตณา กล่าว
ส่วนการเจรจาเข้าซื้อกิจการในประเทศจีนจากเชฟรอน คาดว่าจะมีข้อสรุปประมาณเดือน ก.ย.53 และใช้เวลาในการปรับปรุงกระบวนการผลิตอีก 2 เดือน ซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นก่อนเดือน ธ.ค.53 จากนั้นจะรับรู้รายได้เข้ามาภายในปี 54 โดยประเมินยอดขายในจีนราว 40,000 ตัน/เดือน จะส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทในปี 54 เติบโตขึ้นจากปีนี้
สำหรับแหล่งเงินที่ใช้ซื้อกิจการในจีน เป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินจำนวน 1.6 พันล้านบาท
นางจินตณา กล่าวว่า บริษัทคงคาดการณ์ยอดขายในปี 53 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หรืออยู่ที่ 1.3 ล้านตัน/ปี จากปีก่อนอยู่ที่ 1.1 ล้านตัน/ปี เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากยอดขายในเวียดนามที่เข้าไปลงทุนเมื่อ มี.ค.53 โดยมียอดขายราว 6 พันตัน/เดือน ขณะที่ยอดขายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะก๊าซ LPG ที่ใช้เพื่อหุงต้มและใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์
ทั้งนี้ ยอมรับว่าช่วงนี้บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการจลาจลทางการเมืองที่มีไฟไหม้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทำให้ยอดขายก๊าซผ่านเซ็นทรัลเวิลด์ลดลง จากที่เคยมียอดขาย 300-400 ตัน/เดือน แต่บริษัทได้ยอดขายต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นมาชดเชย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาที่มีเหตุการณ์ชุมนุมในกรุงเทพ ทำให้มีประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น
ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสถานีบริการก๊าซ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยวางเป้าหมายที่จะเพิ่มสถานีบริการอีก 10 แห่ง ซึ่งไตรมาส 1/53 ได้เปิดไปแล้ว 3 แห่ง นอกจากนี้จะมีการขยายโรงบรรจุก๊าซเพิ่มอีก 2 แห่ง คาดว่าใช้เงินลงทุนทั้งหมด 120 ล้านบาท