นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์(L&E)เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2/53 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/53 เนื่องจากจะเป็นช่วงที่บริษัทจะรับรู้รายได้จากงานในมือ(Backlog)ที่มีอยู่ประมาณ 580-600 ล้านบาทเข้ามาอย่างชัดเจน ในขณะที่มูลค่าการส่งออกยังเพิ่มขึ้นในอัตราสูง สนับสนุนให้รายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับ ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนสินค้าเฉลี่ยลดลง ส่งผลโดยตรงให้อัตรากำไรขั้นต้น (Goss profit margin) ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนให้ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ LED ที่ลงทุนจัดตั้งบริษัทขึ้นมาดูแลการผลิตอย่างเต็มตัวจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ประมาณไตรมาส 3/53 จึงเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในปี 53 เติบโตต่อเนื่องจากปี 52 ได้อย่างชัดเจน
"ที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ออกมาเติบโตในอัตราที่น่าพอใจ ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าการเติบโตนี้จะต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่ 2 และ 3 ได้ ด้วยปัจจัยเดียวกัน คือยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จากการส่งออกมีการปรับตัวสูงขึ้น และการบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ" นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า ในปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,475.60 ล้านบาท ถึงแม้ว่าการเมืองภายในประเทศจะส่งผลให้โครงการก่อสร้างหลายโครงการเลื่อนออกไปจากเดิม อาทิ กลุ่มโรงแรม รีสอร์ท และร้านค้าปลีกบางแห่ง แต่ปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น
โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ สินค้า LED ที่เป็นสินค้าดาวรุ่งอย่างจริงจัง เพื่อชดเชยตลาดที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังจากพบว่าผลิตภัณฑ์ LED เป็นผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างที่มีอนาคตและความต้องการใช้เติบโต อย่างรวดเร็ว ทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก
ประกอบกับ บริษัทยังขยายงาน R&D พัฒนากระบวนการผลิต รวมทั้งลงทุนในอุปกรณ์และเครื่องจักรให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพรองรับกับตลาด LED ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท แอล แอนด์ อี โซลิดสเตท จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิต โคมไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์ LED อย่างเต็มตัว คาดว่าโรงงานการผลิตแห่งใหม่นี้จะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3/53 และจะรับรู้เป็นรายได้ทันที ในขณะที่ตลาดส่งออกยังเติบโตได้ดีมากกว่า 50% ดังนั้น จึงสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโตต่อเนื่องได้ถึงแม้ว่าปัจจัยการเมืองในประเทศจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม
ทั้งนี้ L&E รายงานผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 1/53 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.53 บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากปีก่อนที่ทำได้ 4.40 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากยอดขายที่สูงขึ้นและอัตรากำไรเบื้องต้นที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ายอดขายในประเทศจากโครงการ ขายส่ง ขายปลีก ค่อนข้างทรงตัว แต่การส่งออกมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทมียอดขาย 375 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 3% อัตรากำไรเบื้องต้น 26% สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 1% เป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนสินค้าเฉลี่ยลดลง