ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นบีพี หลังจากทางบริษัทยอมรับว่าความพยายามครั้งล่าสุดในการหยุดการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ประสบความล้มเหลว นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังถูกกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 25.13 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 5,163.30 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,063.20 - 5,192.08 จุด
หุ้นบีพีดิ่งลง 13% ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่สุดในรอบ 18 ปี หลังจากบีพียอมรับว่าความพยายามครั้งล่าสุดในการหยุดการรั่วไหลของน้ำมันประสบความล้มเหลว รวมถึงวิธีการทำ “top kill" หรือการอัดโคลนหนักลงไปในบ่อน้ำมันเพื่อป้องกันการรั่วไหล สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลสหรัฐ และทำให้รัฐบาลประกาศว่าจะดำเนินการสอบสวนทางอาญาในกรณีนี้ด้วย
หุ้นกลุ่มโลหะดิ่งลงหลังจากสมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตประจำเดือนพ.ค. ขยายตัวที่ระดับ 53.9 จุด ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 55.7 จุด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 54.5 จุด
ทั้งนี้ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 1.2% หุ้นคาซัคมิสปิดร่วง 1.8% และหุ้นริโอ ทินโต ดิ่งลง 2.0%