นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์(TOP)กล่าวว่า โรงไฟฟ้าของบริษัท ผลิตไฟฟ้าอิสระ (ประเทศไทย) จำกัด(IPT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ ขนาดกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ได้หยุดเดินเครื่องผลิตตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เนื่องจากเกิดปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันหล่อลื่นระหว่างแกนเครื่อง ซึ่งอยู่ในระบบหล่อเย็นเครื่องกังหันไอน้ำ(Stream Turbine) ทำให้เครื่องร้อนและเกิดการเสียดสีของเหล็กในระบบ ทำให้ต้องหยุดการผลิตไฟฟ้าในส่วนของเครื่องกังหันไอน้ำ และปัจจุบันยังไม่สามารถเปิดเดินเครื่องการผลิตไฟฟ้าได้
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย โดยหากเสียหายไม่มากก็อาจจะใช้วิธีการซ่อมเครื่องซึ่งจะใช้เวลาไม่มากนัก แต่หากเสียหายมากก็อาจจะต้องซื้อเครื่องใหม่ซึ่งจะใช้เวลานาน โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น และเบื้องต้นประเมินว่าจะต้องมีการหยุดการผลิตไฟฟ้าประมาณ 1 เดือน หรือคาดว่าอย่างเลวร้ายที่สุดไม่น่าจะหยุดถึง 1 ปี
นายสุรงค์ กล่าวว่า ได้แจ้งให้กับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ทราบปัญหาแล้ว ซึ่งขณะนี้ กฟผ.ก็ได้เข้ามาร่วมทำการตรวจสอบ เนื่องจาก กฟผ.ได้รับจ้าง IPT เป็นผู้ให้บริการงานบำรุงรักษาของโรงไฟฟ้านี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทำประกันภัยไว้ครอบคลุมทั้งในส่วนของค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้ทำการผลิต (Business Instrument) และในส่วนของทรัพย์สินที่เสียหาย (Property Damage) ซึ่งจะทำให้รายได้จากส่วนนี้หายไปไม่มากนัก และประกันอาจจะครอบคลุม ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับบริษัทประกันภัยอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าโรงนี้สร้างรายได้ในปีที่ผ่านมา ประมาณ 500 ล้านบาท
ปัจจุบัน TOP มีธุรกิจผลิตไฟฟ้า 2 โรง ประกอบด้วย IPT เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต เป็นธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าตามโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่(ไอพีพี) ของ กฟผ. และเป็นโรงไฟฟ้าเอกชนรายแรกของประเทศที่ได้รับคัดเลือก และลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.ภายใต้โครงการไอพีพี โดยเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 43 แต่เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตเมื่อเดือนก.พ. 48 กำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้าที่ผลิตทั้งหมดให้แก่ กฟผ. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี