UNIQ มั่นใจศักยภาพพอลุ้นงานสายสีน้ำเงิน/คงเป้ารายได้ปีนี้ 3-4 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 2, 2010 12:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนที พานิชชีวะ ประธานกรรมการ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(UNIQ)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทมั่นใจว่ามีศักญภาพเพียงพอในการรับงานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 3-4 ที่จะมีการเปิดซองประมูลในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งบริษัทผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคแล้ว

สำหรับการเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในครั้งนี้ บริษัทร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีนซึ่งมีประสบการณ์ทำงานรับเหมาขนาดใหญ่ อย่างเช่น เขื่อน จึงเชื่อมั่นในฝีมือการทำงาน โดยวันนี้ที่มีการเปิดซองเป็นขั้นตอนที่ 2 คือ เปิดซองด้านเทคนิคและขั้นตอนที่ 3 จึงจะเป็นการเปิดซองราคา ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนภายในเดือนก.ค.น่าจะรู้ผลประมูล

"เรากับพาร์ทเนอร์มั่นใจในการเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ ถ้าถามว่ามั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ตอบไม่ได้ แต่เรามีความเชื่อมั่นว่าบริษัทมีศักยภาพสูงพอในการรับงานใหญ่ได้ ซึ่งโดยส่วนตัวก็มีความมั่นใจมาก เพราะเราก็เคยประมูลงานสายสีแดงได้มูลค่างานระดับหมื่นล้านบาทเหมือนกัน หากได้งานนี้ก็ต้องถือว่าเกินเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้เป็น Benefit ตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น"นายนที กล่าว

นายนที กล่าวว่า กรณีที่มีหลายฝ่ายประเมินศักยภาพของบริษัทว่ามีความสามารถสู้คู่แข่งอย่างผู้รับเหมารายใหญ่ที่เข้าร่วมประมูล ทั้ง ITD STEC CK ไม่ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของฐานเงินทุนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับการประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพราะคุณสมบัติของผู้ที่จะได้งานไม่เกี่ยวข้องกับฐานทุน

เนื่องจากงานดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีการก่อสร้างเป็นระยะ สามารถเบิกจ่ายเงินระหว่างการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การลงทุนในคราวเดียวทั้ง 1 หมื่นล้านบาท/สัญญา ประเด็นสำคัญจะอยู่ที่ฝีมือการทำงาน การบริหารงาน และจัดการโครงการขนาดใหญ่มากกว่า และบริษัทมีสถาบันการเงินในการสนับสนุนวงเงินเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้น การที่บริษัทมีขนาดเล็กกว่าคู่แข่งมีสาเหตุจากการที่บริษัทเลือกรับงานประมูลที่ใช้ฝีมือและมีความซับซ้อน เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับงานทั่ว ๆ ไป ซึ่งเป็นการสร้างจุดเด่นให้กับตัวบริษัท รวมทั้งลดความเสี่ยง โดยการรับงานภาครัฐ 100% เพราะงานภาครัฐมีปัญหาด้านการเงินน้อยกว่างานเอกชน

นายนที เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีมูลค่างานคงค้าง(backlog)ราว 8 พันล้านบาท โดยงานส่วนใหญ่ที่บริษัทเข้าประมูลเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคทั้งสะพาน เขื่อน และทางด่วน มูลค่างานไม่เกิน 1 พันล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทคงเป้าหมายการรับรู้รายได้ที่ระดับ 3-4 พันล้านบาท เป็นการรับรู้จากงานในมือเป็นหลัก และตั้งเป้าว่ากำไรสุทธิต้องสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิกว่า 100 ล้านบาท และหากได้งานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเชื่อว่าจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทดีขึ้นด้วย

ส่วนการที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะมาจากการที่นักลงทุนเห็นศักยภาพของบริษัท ยิ่งเมื่อรัฐบาลเร่งผลักดันงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้นและมีมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีความสามารถรับงานทั้ง สะพาน งานโครงสร้างระดับสูง งานเขื่อน และงานทางด่วน บริษัทมีแนวโน้มที่จะได้รับงานภาครัฐมากขึ้น ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ