ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากหุ้นกลุ่มนี้ร่วงลงอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน อันเนื่องมาจากปัญหาน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่ส่งเข้ามาในหุ้นกลุ่มการเงินและรายงานยอดขายบ้านที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนเม.ย.ของสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 225.52 จุด หรือ 2.25% ปิดที่ 10,249.54 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 27.67 จุด หรือ 2.58% ปิดที่ 1,098.38 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 58.74 จุด หรือ 2.64% ปิดที่ 2,281.07 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 9.08 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2,592 ต่อ 455 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างคึกคัก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 4.3% หลังจากหุ้นกลุ่มนี้ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน อันเนื่องมาจากปัญหาน้ำมันรั่วไหลที่เกิดขึ้นหลังจากแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีระเบิดเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนทำให้รัฐบาลสหรัฐสั่งให้มีการสอบสวนทั้งในทางแพ่งและอาญา
ทั้งนี้ หุ้นบีพีปิดบวก 3.1% แม้บริษัทเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักทั้งจากการสอบสวนจากภาครัฐและความพยายามที่จะหยุดการรั่วไหลของน้ำมัน โดยล่าสุดนายแดน พิกเคอริง หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านพลังงานจากบริษัท ทิวดอร์ พิกเคอริง โฮลท์ แอนด์ โค กล่าวว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลอาจยืดเยื้อยาวนานไปจนถึงเดือนธ.ค.ปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากซีเค คูเปอร์ แอนด์ โค คาดว่าพายุเฮอริเคนในอ่าวเม็กซิโกจะเป็นอุปสรรคต่อบีพีในการหยุดการรั่วไหลของน้ำมัน
ส่วนหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านต่างๆแก่บริษัทพลังงาน พุ่งขึ้นกว่า 8.8% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ปิดพุ่ง 10.5% หุ้นฮาลิเบอร์ตันพุ่งขึ้น 12%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.0% สู่ระดับ 110.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2552 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.0% เนื่องจากผู้ซื้อบ้านใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล
ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย.ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเคบี โฮม ปิดบวก 2% หุ้นฮอฟนาเนียน เอนเตอร์ไพรซ์ อิงค์ ปิดพุ่ง 3% ส่วนหุ้นกลุ่มสายการบินได้แรงหนุนหลังจากนักวิเคราะห์ในสหรัฐแสดงความคิดเห็นที่เป็นบวกต่ออุตสาหกรรมการบิน โดยหุ้นคอนติเนนตัล แอร์ไลน์ส ปิดบวก 11.1% และหุ้นยูเอส แอร์เวย์ส ปิดบวก 9.3%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานมีกำหนดจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า อัตราว่างงานเดือนเม.ย.จะลดลงสู่ระดับ 9.8% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 508,000 อัตรา ซึ่งจะเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540