นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) เปิดเผยว่า ในปี 53 ตั้งเป้ามีรายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 46 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจซอฟแวร์ และปัจจุบันบริษัทมี backlog 60 ล้านบาท คาดว่ารับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการประมูลงานในโครงการภาครัฐ มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในปลายไตรมาส 3/53 หรือต้นไตรมาส 4/53 ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 2/53 จะดีขึ้นจากไตรมาส 1/53 เนื่องจากมี backlog ที่ทยอยรับรู้รายได้บางส่วน
อย่างไรก็ตาม ปี 53 คาดว่าบริษัทยังมีผลประกอบการขาดทุน แต่จะลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนประมาณ 20 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และคาดว่าปี 54 ผลประกอบการน่าจะพลิกกลับเป็นกำไรได้
และในวันที่ 7 มิ.ย.53 บริษัทเตรียมนำใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) อายุ 2 เดือน จำนวน 2,500 ล้านหน่วย ราคาใช้สิทธิอยู่ที่ 0.40 บาท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก โดยจะเข้าซื้อขาย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ 7-18 มิ.ย.53 หลังจากนั้นจะปิดสมุดทะเบียนหุ้นและเรียกชำระค่าหุ้น คาดว่าจะได้เงินจากการแปลง TSR จำนวน 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น และคาดว่าจะได้รับเงินต้น ก.ค.53
"1 พันล้านบาทเป็นเงินที่ได้เต็มที่หากใช้สิทธิหมดทุกคน แต่คิดว่าได้แน่ๆ 500 ล้านบาท โดยเงินที่ได้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือใช้ในการขยายธุรกิจไอซีที ลงทุนธุรกิจนิวมีเดียส์ ลงทุนธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเงินที่ได้จะใช้ในปีนี้ 80-100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้ใน 2-3 ปีข้างหน้า" นายอารักษ์ กล่าว
ทั้งนี้การลงทุนในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โดยการเข้าซื้อกิจการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ขณะเดียวกันยังมองการเข้าซื้อกิจการสื่อสิ่งพิมพ์รายอื่นด้วย ทั้งนี้คาดว่ามีข้อสรุปในไตรมาส 3/53
นายธนพันธ์ วงศ์ชินศรี กรรมการ SLC ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ กล่าวว่า ตนเองอยู่ระหว่างการพิจารณาจะซื้อ TSR ตามสิทธิหรือไม่ เพื่อรักษาสัดส่วนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผน ซึ่งหากใช้สิทธิครบ 16% จะต้องใช้เงิน 160 ล้านบาท แต่ยืนยันว่าตนเองต้องการคงสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ไว้
อนึ่ง หุ้น SLC ปิดตลาดเช้าวันนี้ บวก 6.38% มาที่ 0.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.93 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.49 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.48 บาท