นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่ แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และยังไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาที่จะหาข้อสรุปได้
สำหรับการเจรจาในครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เจรจากับนักลงทุนที่สนใจมากกว่า 1 ราย มีทั้งกองทุน และนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่จะขายหุ้นบริษัท อาจจะเป็นกองทุนต่างประเทศที่ปัจจุบันถือหุ้นมากกว่า 10% และผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วย ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียด และไม่แน่ใจว่าจะต้องมีทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ด้วยหรือไม่
"คนที่จะขายอาจจะมองว่าความมั่นใจในการลงทุนในประเทศน้อยลง จึงอยากขายหุ้นออก และช่วงหลังๆ ที่นักลงทุนต่างประเทศขาย ก็ไม่เฉพาะหุ้นของบริษัท แต่มีหุ้นตัวอื่น ๆ"นายยุทธ กล่าว
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่จะมีผลต่อการบริหารบริษัทหรือไม่ขึ้นนั้น อยู่กับสัดส่วนการถือหุ้นผู้ถือหุ้นรายใหม่ รวมถึงความต้องการในการเข้าม่มีส่วนร่วมในการบริหารธุรกิจ
สำหรับการดำเนินธุรกิจของ EPCO นั้น นายยุทธ กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทตั้งเป้าหมายกำไรเติบโต 15-20% เนื่องจากความต้องการสิ่งพิมพ์เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้มีความต้องการข่าวสารมากขึ้น และมีคนอ่านหนังสือมากขึ้น รวมถึงมีการพิมพ์แบบเรียนใหม่จากนโยบายแจกฟรีของรัฐบาล ประกอบกับ ปีนี้จะมีการจัดมหกรรมหนังสือมากขึ้น
นอกจากนั้น บริษัทยังคาดหวังว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์เติบโตได้มากกว่าเป้าหมาย เพราะอยู่นอกเหนือจากประมาณการณ์
และในปีนี้บริษัทได้มีการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรใหม่ไปแล้ววงเงิน 47 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้ง ส่วนการขยายงานด้วยการซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมนั้น จะมีการหารือกับผู้ถือหุ้นรายใหม่ต่อไป