นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ บมจ.นวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 30,000-35,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี 53 คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 10% ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณงานในมือ(backlog)เป็นไปตามเป้าหมายที่ 14,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 12,400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 3,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น(STEC)เข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 1 และ 2 มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลภายใน ก.ค.53 หวังว่าจะชนะการประมูลอย่างน้อย 1 สัญญา และจะส่งผลดีต่อ backlog และจะทำให้รายได้ของบริษัทปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 3,600 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำไรสุทธิ คาดว่าปีนี้จะใกล้เคียงปีก่อนที่มีกำไร 97 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนการก่อสร้างทั้งราคาน้ำมันและราคาเหล็ก ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงปีก่อนที่ 10%
นายวัชรพัธ กล่าวว่า การเข้าประมูลงานในช่วงครึ่งหลังปี 53 ยังเป็นโครงการภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนการรับงานภาครัฐ 70-80% แม้ปัญหาการเมืองที่ผ่านมาจะส่งผลให้โครงการลงทุนภาครัฐชะลอไปบ้าง แต่ในที่สุดจะต้องมีการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญในการรับงานก่อสร้างท่าเรือและงานก่อสร้างทางทะเล จากเดิมส่วนใหญ่จะเป็นการก่อสร้างถนน เนื่องจากงานท่าเรือและงานก่อสร้างทางทะเล มีมาร์จิ้นที่สูงกว่า และคู่แข่งทางธุรกิจยังมีน้อย
ขณะที่โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มมีรายได้เข้ามาบ้างในปีนี้ แต่จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นในปีต่อไป หลังจากบริษัทได้มีการซื้อที่ดินย่านสวนหลวง ร.9 เพื่อพัฒนาโครงการ มูลค่า 125 ล้านบาท รวมถึงโครงการบ้านเดี่ยวย่านรังสิต มูลค่า 120 ล้านบาท รวมถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วมลงทุนอีก 2 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาการจัดซื้อที่ดินเพิ่มย่านรังสิต ที่ดินในเมืองใกล้รถไฟฟ้า และพัทยา เพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต
นายวัชรพัธ กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง หากบริษัทสามารถรับงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีผลประกอบการที่มีกำไร ซึ่งจะทำให้มีโอกาสที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรก หลังจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผล 50% ของกำไรสุทธิ