ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ภาคเอกชนเพิ่มการจ้างงานในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตาม รายงานยอดสั่งซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ได้ส่งผลจำกัดการพุ่งขึ้นของดาวโจนส์ และทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวในภาคการผลิตของสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 5.74 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 10,255.28 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.45 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 1,102.83 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 21.96 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 2,303.03 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.94 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกนำหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนประชาชนที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 10,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 453,000 คน ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงาน 55,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. แต่น้อยกว่าเดือนเม.ย.ที่มีการเพิ่มการจ้างงาน 65,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 60,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.8% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาคการผลิตของสหรัฐอาจชะลอตัวไม่แตกต่างจากภาคการผลิตของจีน
โดยเมื่อไม่นานมานี้ สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตประจำเดือนพ.ค. ขยายตัวที่ระดับ 53.9 จุด ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 55.7 จุด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 54.5 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์ที่ 4 มิ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 508,000 อัตรา ซึ่งจะเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540 และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 9.8%