บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุว่า ธนาคารทหารไทย(TMB)มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 53 ทั้งในแง่ของผลการดำเนินงานและคุณภาพสินทรัพย์ ประกอบกับความชัดเจนมากขึ้นของโอกาสที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในปี 53 ซึ่งเป็นการจ่ายครั้งแรกในรอบ 13 ปี
แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 1.14 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 52 ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ ROE ที่ยังอยู่ในระดับต่ำในปัจจุบันนี้ ดังนี้ เราจึงให้คำแนะนำในลักษณะ“ทยอยสะสม" มูลค่าที่เหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 1.54 บาท/หุ้น อ้างอิงกับ 1.3 เท่าของมูลค่าทางบัญชีปี 53
ทั้งนี้ ประชุมคณะกรรมการธนาคารวันที่ 24 พ.ค.53 มีมติอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของธนาคารโดยการลดมูลค่าหุ้น (ราคาพาร์)จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 0.95 บาท เพื่อนำไปล้างส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นและลดผลขาดทุนสะสมของธนาคาร เพื่อให้กลับมาจ่ายเงินปันผลได้อีกครั้งหนึ่ง โดยกระบวนการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนหุ้น มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น ส่วนของผู้ถือหุ้น และฐานะเงินกองทุนของธนาคารแต่อย่างใด โดยอยู่ระหว่างขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 24 มิ.ย.53
และจากการเข้าพบผู้ถือหุ้นในต่างประเทศทางธนาคารค่อนข้างมั่นใจว่ากระบวนการดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น และคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 2/53 โดยเบื้องต้นเราประเมินเงินปันผลปี 53 ไว้ที่ 0.027 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 30% ของกำไรสุทธิ
ด้านบล.เกียรตินาคิน แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น TMB คาดกำไรสุทธิปี 2553 ของ TMB ยังคงเติบโตต่อเนื่องเป็น 3,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.3% จากธุรกิจของ TMB ที่เริ่มพลิกฟื้นขึ้น และการที่จะมีการล้างขาดทุนสะสม และส่วนต่ำมูลค่าหุ้น ทำให้ TMB จะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกครั้งหลังจากไม่ได้จ่ายมานาน ให้ราคาเหมาะสมของ 1.62 บาท
ผลประกอบการไตรมาส 2/53 ของ TMB มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/53 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ การลดลงของต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากออมทรัพย์ และเงินฝากกระแสรายวัน นอกจากนี้แล้วในไตรมาส 2/53 นั้น TMB จะมีการบันทึกกำไรจากการซื้อคืน Hybrid Tier 1 ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตอนออก จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท แต่ TMB นั้นอาจจะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นด้วย
วานนี้(3 มิ.ย.)ราคาหุ้น TMB ปิดที่ 1.33 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท(+2.31%)มูลค่าซื้อขาย 274.06 ล้านบาท