นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี (TKS) เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปีว่า ธุรกิจของบริษัทฯ ยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ทำให้ความต้องการใช้สินค้ากระดาษและสิ่งพิมพ์ เพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้ยอดขายของกระดาษและสิ่งพิมพ์เพิ่มมากขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 1/2553 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 2/2553 บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคากระดาษราว 5-10% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนั้น ยังได้รับงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ ต้องเปิดทำการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงไตรมาส 2 ของปี จึงทำให้ในช่วงดังกล่าวคาดว่าบริษัทฯ จะมีรายได้เติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2553 ยังเติบโตในทิศทางที่ดีตามเป้าหมายที่วางไว้
"มั่นใจผลงานในครึ่งปีแรกยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานครั้งสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจในปัจจุบัน ด้วยการนำมืออาชีพจากต่างประเทศเข้ามาดูแลด้านการผลิตโดยตรง ในขณะเดียวกันด้านบริหารจัดการภายในเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การทำงานรวดเร็ว คล่องตัวขึ้น ต้นทุนบางส่วนได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการในระยะยาว ประกอบกับธุรกิจการพิมพ์ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าผลประกอบการในครึ่งแรกของปียังเติบโตในทิศทางที่ดีดังกล่าว"
แนวโน้มธุรกิจสิ่งพิมพ์ในปีนี้ยังมีทิศทางค่อนข้างสดใส เนื่องจากลูกค้าจากต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจงานพิมพ์ของบริษัทฯ มากขึ้น หลังจากที่ได้รับรางวัลจากการประกวดงานพิมพ์ในระดับนานาชาติหลายรางวัลในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า TKS สามารถผลิตงานพิมพ์ได้ในระดับเวิลด์คลาส และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานพิมพ์จากประเทศไทย ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ TKS มีเป้าหมายจะเพิ่มรายได้จากลูกค้าต่างประเทศเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ จากปีก่อนที่อยู่ในสัดส่วน 10%
นอกจากนั้นธุรกิจงานพิมพ์ในประเทศเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจการบริหารคลังสินค้า งานพิมพ์ดิจิตอล และงานพิมพ์ Advance&Security เพราะเป็นงานที่รองรับความต้องการลดต้นทุนของลูกค้าได้เป็น อย่างดี โดยธุรกิจบริหารคลังสินค้าของ TKS มุ่งให้ลูกค้าลดภาระเรื่องการจัดพิมพ์ จัดเก็บ และจัดส่งเอกสารทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าตลาดเหล่านี้จะขยายตัวได้ และเมื่อรวมกับงานอื่นๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะผลักดันให้รายได้จากธุรกิจการพิมพ์ในปีนี้ เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,001.65 ลบ. ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งผลักดันให้กำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยได้หันมาบริหารต้นทุน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างระมัดระวังและต่อเนื่อง ทั้งการลดการสูญเสียของกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการขนส่งและอื่นๆ เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากในไตรมาสที่ 1/2553 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 21.1เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ร้อยละ 16.4 ถือเป็นอัตตราที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ถึงคาดว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางที่ดีได้ เช่นเดียวกัน ซึ่งยังไม่รวมการรับรู้รายได้จากเงินปันผลในบริษัทร่วม คือ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ประมาณ 40%