ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดดิ่งลงหนักสุดในรอบสองสัปดาห์ เพราะได้รับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดในแดนลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปที่ถูกจุดปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
ดัชนีเวทเต็ดปรับตัวลง 186.76 จุด หรือ 2.54% ปิดที่ 7,157.83 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค. ที่แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 431,000 ตำแหน่ง แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 508,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ อัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐถึง 411,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนขยับตัวขึ้นเพียง 41,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงจากระดับ 218,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. บ่งชี้ว่าภาคเอกชนยังคงมีความระมัดระวังในการจ้างพนักงานใหม่
นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดให้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงถึง 323.31 จุด หรือ 3.15% มาปิดที่ 9,931.97 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะนักลงทุนตื่นตระหนก หลังจากที่นายมิฮาลี วาร์กา หัวหน้าคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฮังการี เปิดเผยว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวจุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปอาจลุกลามออกไปในวงกว้าง
ขณะที่หุ้นหงไห่ พรีซิชัน (Hon Hai Precision) ก็ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ ฟอกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือในประเทศจีน เปิดเผยว่า บริษัทจะขึ้นค่าจ้างให้กับพนักงานที่ประจำในโรงงานที่เสิ่นเจิ้นมากกว่า 2 เท่าของเงินเดือนพื้นฐานภายในระยะเวลา 4 เดือนนี้ หลังจากที่ถูกวิจารณ์ว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้พนักงานฆ่าตัวตายหลายครั้งในปีนี้