MK ผุดคอนโดฯ บีโอไอ 2 แห่ง,มั่นใจปี 53 รายได้ตามเป้า 3 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 7, 2010 13:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายบัญชี-การเงิน บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 2 แห่ง เป็นโครงการบ้านบีโอไอ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่นอกเหนือจากแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าโครงการแรกจะเห็นในปลายปีนี้ มูลค่า 200 ล้านบาท ย่านประชาชื่น ส่วนอีกโครงการมีมูลค่า 1,100 ล้านบาท จะเริ่มได้ในปี 54

การที่บริษัทหันกลับมาพัฒนาโครงการบ้านบีโอไอ เนื่องจากการที่รัฐบาลได้มีการปรับเงื่อนไขโครงการบ้านบีโอไอที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้นจาก 6 แสนบาท/หลัง เป็น 1 ล้านบาท/หลัง ทำให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการบ้านบีโอไอมากขึ้น ประกอบกับความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น เห็นได้จากช่วงปลายปี 52 ถึงปัจจุบัน

และในปีนี้บริษัทยังเน้นการพัฒนาโครงการในรูปแบบบ้านพร้อมอยู่ โดยเพิ่มโครงการในมือขึ้นเป็น 300 ยูนิต จากเดิมอยู่ที่ 100-150 ยูนิต เนื่องจากความต้องการของลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ดังนั้น จะส่งผลต่อยอดรับรู้รายได้ของบริษัทในปีนี้ที่จะมีเร็วขึ้น และทำให้สัดส่วนรายได้จากบ้านพร้อมอยู่เพิ่มเป็น 60% จากปีก่อนอยู่ที่ 40% ส่วนที่เหลือจะเป็นบ้านสั่งสร้าง

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ที่เป็นโครงการแนวราบในปีนี้ 3 โครงการ จากต้นปี 53 ดำเนินการเปิดโครงการแล้ว 1 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม

นางสาวชุติมา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)แล้วจำนวน 1,000 ล้านบาท โดยบริษัทมียอดขายใหม่ 1,084 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/53 บริษัทรับรู้รายได้ไปแล้ว 916 ล้านบาท จึงเชื่อว่าในปีนี้จะมียอดรับรู้รายได้ 3,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้

แม้ว่ารายได้ในไตรมาส 2/53 จะลดลงจากไตรมาส 1/53 ที่มียอดรับรู้รายได้ 916 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาการชุมนุมทางการเมือง และเป็นช่วงที่มีวันหยุดมาก ขณะที่ไตรมาส 1/53 มีลูกค้าเร่งการโอนบ้านจำนวนมาก จากมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ แต่เชื่อว่าหลังจากเดือน มิ.ย.53 สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

"เดือน เม.ย. มียอดขาย 100 ล้านบาท ส่วน พ.ค.เริ่มเข้าสุ่ภาวะปกติ ที่มียอดขาย 200 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดขายมากขึ้นมากขึ้นเป็น 300-400 ล้านบาท /เดือน หลังการเปิดโครงการใหม่และความต้องการผู้บริโภคที่มีอยู่สูง" นางสาวชุติมา กล่าว

นอกจากนี้ ในปี 53 บริษัทได้ตั้งงบเพื่อจัดซื้อที่ดินจำนวน 800 ล้านบาท ขณะนี้ยังเหลืองบจำนวน 500 ล้านบาท เตรียมจัดซื้อดินรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะอยู่ใกล้เคียงปีก่อนที่ 40% และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้มากกว่านโยบายที่ให้จ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ