นายยุทธนา เจียมตระการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โพลิโอเลฟินส์ จำกัด บริษัทในเครือเอสซีจีเคมีคอลส์ กล่าวว่า ในปี 53 คาดว่ายอดขายบริษัทจะเติบโตมากกว่าในปี 52 ที่มียอดขายเม็ดพลาสติกคุณภาพสุงประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งใช้ในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุปกรณ์การแพทย์
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง 50% ของกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรวม 2 ล้านตัน
"เชื่อว่ารายได้จากจะสูงกว่าปีก่อนที่ 3 หมื่นล้านค่อนข้างมาก เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ดี และเขื่อว่าธุริกจปิโตรเคมีของเอสซีจี ก็คาดว่าจะมียอดขายสูงกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 1 แสนล้าน" นายยุทธนา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาธุรกิจในกลุ่มเคมีคอล โดยเฉพาะเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ (HVA) เพื่อใช้ในการผลิตอุปกรณ์การเพทย์ปลอดเชื้อ โดยตั้งเป้าใน 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 58 จะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเริ่มผลิตเม็ดพลาสติกดังกล่าว ได้ปลายปีนี้ โดยลูกค้าเป็นประเทศในแถบเอาเซียนและผู้ผลิตการแพทย์ในประเทศ
ทั้งนี้ การที่เอสซีจี โพลีฯ หันมาผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงเนื่องจากความต้องการสูงต่อเนื่องทั้งจากอุตสาหกรรมยายนค์และอุปกรณ์การแพทย์ ประกอบกับเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงจะมีกำไรมากกว่าเม็ดพลาสติกทั่วไปประมาณ 20 เหรียญ/ตัน
ณ สิ้น พ.ค. 53 ราคาเม็ดพลาสติกทั่วไป มีราคา 1,200 เหรียญ/ตัน แต่ยอมรับราคาเม็ดพลาสติกช่วงนี้ค่อนข้างผันผวน ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวน จึงไม่สามารถคาดคะแนราคาล่วงหน้าได้ อย่างไรก็ดี ถือว่ายังเป็นระดับราคาที่น่าพอใจ
ส่วนการพัฒนาเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง บริษัทได้ใช้งบประมาณด้านการวิจัยถึง 370 ล้านบาท เพื่อพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และให้มีความหลากหลาย และมีแนวโน้มใช้งบด้านการวิจัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี