ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กหวั่นปัญหาหนี้ยุโรปกระทบศก.โลก ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 115.48 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 8, 2010 06:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะที่ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปทั่วยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงผิดหวังต่อตัวเลขจ้างงานในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นเพียงการรจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐเท่านั้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 115.48 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 9,816.49 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 14.41 จุด หรือ 1.35% ปิดที่ 1,050.47 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 45.27 จุด หรือ 2.04% ปิดที่ 2,173.90 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 9.70 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 11 ต่อ 4 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

นักวิเคราะห์จากไดเร็ค แอคเซส พาร์เนอร์ส แอลแอลซี ในนิวยอร์ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงถูกกดดันจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป โดยเฉพาะเมื่อนายมิฮาลี วาร์กา หัวหน้าคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฮังการี เปิดเผยว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวจุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปอาจลุกลามออกไปในวงกว้าง และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของฮังการีจะพุ่งขึ้นเป็น 4.1% ของตัวเลขจีดีพี เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ย 7.2% ของประเทศอื่นๆในกลุ่มอียู และเทียบกับ 9.3% ของกรีซ นอกจากนี้ คาดว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลฮังการีจะเพิ่มเป็น 79% เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยของอียูที่ 80% และเทียบกับ 125% ของกรีซ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงผิดหวังต่อตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ในเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะพุ่งขึ้น 508,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.7% ทั้งนี้ การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐในส่วนงานสำมะโนประชากรจำนวน 411,000 ตำแหน่ง ซึ่งรัฐบาลกลางสหรัฐมียอดการจ้างพนักงานดังกล่าวสูงสุดในเดือนพ.ค. ซึ่งตัวเลขนี้จะเริ่มลดจำนวนลงในเดือนมิ.ย.

หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลง รวมถึงหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ที่ปิดลบ 2.5% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดร่วง 3.4% เพราะได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบด้านการเงินของสหรัฐยื่นหมายศาลถึงบริษัท โกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นกระบวนการในชั้นศาลที่เกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ยื่นฟ้องโกลด์แมน แซคส์ ในข้อหาฉ้อโกง ด้วยการปกปิดข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับตราสารหนี้ "ABACUS 2007-AC1" (ผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน) ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยลูกค้าที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้รวมถึง ธนาคารไอเคบี ของเยอรมนี และธนาคารเอบีเอ็น อัมโร ของเนเธอร์แลนด์

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคจะสามารถต้านทานภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ โดยหุ้นเฟิร์สท์เอนเนอร์จีปิดพุ่ง 2.7% และหุ้นแบร์ริค โกลด์ ปิดบวก 4.1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ส่วนวันพฤหัสดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย.และข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลประจำเดือนพ.ค.

วันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ