SET ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 764.21 จุด บวก 6.80 จุด(+0.90%)มูลค่าการซื้อขาย 15,798.91 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวน์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคหลังจีนประกาศตัวเลขการส่งออกมาดี ช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับมา ประกอบกับ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวก แต่ปัจจัยปัญหาหนี้สินในยุโรปยังมีอิทธิพลกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ต่อไป ให้กรอบการลงทุน แนวรับ 756 แนวต้าน 771 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 764.21 จุด บวก 6.80 จุด (+0.90%)มูลค่าการซื้อขาย 15,798.91 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 766.21 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 756.67 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 233 หลักทรัพย์ ลดลง 106 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 125 หลักทรัพย์
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่รีบาวน์จากการที่ประเทศจีนประกาศตัวเลขส่งออกมาดีกว่าที่คาด ส่งผลต่อ Sentiment โดยรวมดีขึ้นทั้งตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในภูมิภาค นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ปรับเพิ่มขึ้นด้วย จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ดีกลับมายังตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายวันนี้ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม แม้บรรยากาศการลงทุนจะดึขึ้นบ้าง แต่ตลาดก็ยังคงมีความกังวลเรื่องปัญหาหนี้สินในยุโรปที่ยังไม่มีความชัดเจนและยังคงมีอิทธิพลกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกต่อไป
แนวโน้มวันพรุ่งนี้แม้ว่า Sentiment ตลาดหุ้นเริ่มกลับมาดีอีกครั้ง แต่คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวแบบ Sideway ในกรอบแคบขึ้นก็ไม่มากลงก็ไม่เยอะ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นแบบเป็นรายตัวและลงทุนในลักษณะเทรดดิ้งตามข่าวที่เกิดขึ้น
กรอบการลงทุนคาดว่าพรุ่งนี้ ให้แนวรับที่ 756 แนวต้านที่ 771 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TCAP มูลค่าการซื้อขาย 951.77 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.15 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 943.43 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 800.91 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 727.26 ล้านบาท ปิดที่ 598.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 665.32 ล้านบาท ปิดที่ 245.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท