MINT คาดปี 53 กำไรโตต่ำกว่าเป้า 20-25%,รายได้เหลือโต 5-8% จาก 12-15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 9, 2010 17:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวประภารัตน์ ตังควัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงิน บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)กล่าวว่า บริษัทจะมีการทบทวนเป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้ลดลง โดยคาดว่าการเติบโตของรายได้ในปีนี้จะลดเหลือ 5-8% จากเป้าหมายเดิม 12-15% ขณะที่กำไรสุทธิก็จะเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ 20-25%

เนื่องจากผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงและทำให้ธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักลดลง ถึงแม้ว่าธุรกิจอาหารจะเข้ามาช่วยทดแทนได้บ้าง แต่ไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด โดยประเมินว่ารายได้จากธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 2-3/53 จะหดตัวลง และไตรมาส 4/53 จะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น คาดว่าทั้งปีนี้ อัตราการเข้าพักทรงตัวจากปีก่อน หรือลดลงจากเป้าหมายที่ 65% เหลือราว 50-55%

"ผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้นคาดว่าจะส่งผลต่อรายได้ในไตรมาส 2/53 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส1/53 แต่ลดลงไม่มากนัก เพราะได้ธุรกิจอาหารมาช่วยทดแทน ยังมีกำลังซื้อต่อเนื่อง เรายังทำตามแผนการขยายธุรกิจอาหารในปีนี้และปีหน้า รวมถึงการขยายแบรนด์"นางสาวประภารัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามเพิ่มกำไร ถือว่าเป็นเรื่องที่จะให้ความสำคัญมากเมื่อเทียบกับรายได้ โดยเฉพาะการเข้ารับบริหารโรงแรมที่ทำกำไรได้ดี ซึ่งจะยังคงทำต่อเนื่อง โดยปลายปีนี้จะเห็นการบริหารโรงแรมเพิ่มอีก 2 แห่งที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ และปีหน้าอีก 5-6 แห่ง อาทิ แถบแอฟริกา ยุโรป และ อินเดีย เป็นต้น จากแผนที่บริษัทตั้งเป้าหมายการรับบริหารโรงแรม 18 แห่ง ในปี 56

ขณะที่แผนการลงทุนยังคงไปตามเดิมที่วางแผนว่าจะลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาทในปีนี้ และปี 54 ลงทุนราว 1.4 พันล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในการขยายธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร

ส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ คือ St.Regis คาดว่าปีนี้จะขายได้จำนวน 5 ยูนิตและปีหน้าคาดว่าจะขายได้ 8-10 ยูนิต และในปี 55 จำนวน 10-20 ยูนิต จากจำนวนทั้งหมด 53 ยูนิต ซึ่งส่วนนี้จะช่วยสร้างกำไรเข้ามาจำนวนมาก เพราะที่พักอาศัยประเภทเรสซิเดนท์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าธุรกิจอื่น

นางสาวประภารัตน์ กล่าวว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเกิดเพลิงไหม้ที่เซ็นทรัลเวิลด์และพารากอนที่มีร้านค้าในเครือของบริษัทตั้งอยู่นั้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท แต่ผลกระทบมีแค่ราว 1% ของรายได้ทั้งหมด ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจอาหาร 60% โรงแรม 30% ร้านค้ารีเทล 10% และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ

ผู้บริหาร MINT กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อทำความเข้าใจกับนักลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่นักลงทุนสถาบันจะลงทุนในระยะยาว โดยจะเริ่มเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกาในเดือนมิ.ย.และเดือนหน้าที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ