ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเชื่อมั่นว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่ส่งเข้ามาในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากมีการคาดการณ์ว่ายอดส่งออกของจีนจะขยายตัวแข็งแกร่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 57.71 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 5,085.86 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,998.06 - 5,085.86 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากเบอร์นันเก้ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อคืนนี้ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐแค่ในระดับปานกลางเท่านั้น และเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว แม้อัตราว่างงานอยู่ในระดับสูงก็ตาม นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยังกล่าวชื่นชมผู้นำยุโรปที่ร่วมมือกันรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินและพยายามกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงิน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะในตลาดลอนดอน ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ายอดส่งออกของจีนจะพุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. โดยหุ้นเฟรสนิลโลปิดพุ่ง 4% หุ้นคาซัคมิสปิดบวก 4.2% และหุ้นเอ็กซ์สตราตาปิดพุ่ง 4.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 1.4% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดพุ่ง 1.8% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดบวก 2.5% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 3.0% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดบวก 3.3%
อย่างไรก็ตาม หุ้นบีพี ดิ่งลง 4.2% เนื่องจากความกังวลที่ว่าเหตุการณ์แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีระเบิดจนเป็นเหตุให้น้ำมันรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโกจำนวนมากนั้น อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและการสู้คดีในชั้นศาลของบีพี นอกจากนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ กดดันนายโทนี เฮย์เวิร์ด ซีอีโอบริษัทบีพี ให้เร่งแก้ป้ญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า อังกฤษขาดดุลการค้า 7.28 พันล้านปอนด์ (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนเม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 7.26 พันล้านปอนด์ในเดือนมี.ค. โดยมูลค่าการส่งออกและนำเข้าในเดือนเม.ย.ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เถ้าภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ที่ทำให้การจราจรทางอากาศต้องหยุดชะงักนานหลายวัน ซึ่งทำให้การส่งออกลดลง 0.6% และการนำเข้าลดลง 0.4%