ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 273.28 จุด รับตัวเลขว่างงานสหรัฐลดลง-ยอดส่งออกจีนแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 11, 2010 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) โดยดัชนีดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุด ขานรับตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง และยอดส่งออกที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ เพราะได้แรงหนุนจากผู้บริหารบริษัทบีพีที่ออกมายืนยันว่า สถานะทางการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง แม้บริษัทต้องจ่ายเงินจำนวนมากในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกก็ตาม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้น 273.28 จุด หรือ 2.76% ปิดที่ 10,172.53 จุด ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 31.15 จุด หรือ 2.95% ปิดที่ 1,086.84 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 59.86 จุด หรือ 2.77% ปิดที่ 2,218.71 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 9.16 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เปิดทำการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีแนวโน้มที่สดใส โดยเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 456,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยรวม ร่วงลง 255,000 ราย สู่ระดับ 4.5 ล้านคน

ขณะที่สำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่ง 48.5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 48.3% ซึ่งทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 1.953 หมื่นล้านดอลลาร์ บ่งชี้จีนซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็วสุดในโลก สามารถต้านทานวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรปได้

เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคการส่งออก โดยนายหลี่ เตากุย ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อดีมานด์การส่งออกสินค้าของจีนในระยะยาว

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ หลังจากผู้บริหารออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่า สถานะการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง นอกจากนี้ บีพียังมีความสามารถและมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับต้นทุนที่ต้องใช้จ่ายในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ขณะเดียวกันสินทรัพย์ของบีพียังคงมีมูลค่าที่ดีและน่าดึงดูด และบริษัทมีแหล่งสำรองน้ำมันดิบกว่า 18 ล้านบาร์เรล และ 6.3 หมื่นล้านบาร์เรลที่บีพีค้นพบในช่วงเวลาปลายปี 2552

ทั้งนี้ หุ้นบีพีปิดพุ่ง 12.3% และหุ้นอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ปิดบวก 12.4%

ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ที่ดิ่งลง 2.2% หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) จะดำเนินการตรวจสอบรายงานการเงินของโกลด์แมน แซคส์ อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ SEC ยื่นฟ้อง โกลด์แมน แซคส์ ในข้อหาพยายามปกปิดข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับตราสารหนี้ "ABACUS 2007-AC1" ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนเป็นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ