หุ้น BEC ราคาวิ่งขึ้น 1.64% มาอยู่ที่ 24.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 13.25 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.32 น.โดยเปิดตลาดที่ 24.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 24.70 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อเมื่ออ่อนตัว"หุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์(BEC)โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 26.50 บาท แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบ แต่ยังมีความเห็นเชิงบวกต่อ BEC แนวโน้มสร้างผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ดี โดยได้รับผลบวกจากการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณา อัตราการใช้เวลาโฆษณาที่หนาแน่น การปรับขึ้นค่าโฆษณา การดึงรายการกลับมาจากผู้ผลิตเพื่อขายโฆษณาเอง และการถ่ายทอดฟุตบอลโลก
BEC จะได้ประโยชน์จากการร่วมกับ RS ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เริ่มแข่งขันช่วงวันที่ 11 มิถุนายน — 11 กรกฎาคม ทั้งหมด 64 เกม แบ่งเป็นช่อง 3 ถ่ายทอด 19 เกม, ช่อง 7 ถ่ายทอด 18 เกม, ช่อง 9 ถ่ายทอด 12 เกม และ ช่อง 11 ถ่ายทอด 15 เกม
ในส่วนของช่อง 3 ได้มีการขายโฆษณาเต็มทั้งหมดแล้วทั้งการถ่ายทอดในช่วงไพร์มไทม์ 18.30 น. และ 21.00 น. 9 เกม และช่วงนอกไพร์มไทม์ คือ 1.30 น.10 เกม ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ BEC เนื่องจากโดยปกติแล้วในช่วงดึกรายได้ค่าโฆษณาจะค่อนข้างน้อย คาดว่ารายได้ส่วนใหญ่จากการถ่ายทอดฟุตบอลโลกของช่อง 3 จะรับรู้ในไตรมาส 2/53 เนื่องจากมีการออกอากาศ 17 เกมในเดือนมิถุนายน ส่วนอีก 2 เกมอยู่ในเดือนกรกฎาคม
ช่อง 3 จะปรับขึ้นค่าโฆษณาสำหรับบางรายการในเดือนกรกฎาคมนี้ ได้แก่ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ปรับขึ้น 13% เป็น 260,000 บาท/นาที ละครก่อนข่าว(19.00 น.) เก็บตกและสีสันบันเทิง ปรับขึ้น 9% เป็น 360,000 บาท/นาที ประเมินว่าจะทำให้กำไรของ BEC ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากประมาณการปัจจุบัน 2-3%
ส่วนละครหลังข่าวก็มีโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณาในเดือนตุลาคมจากการที่อัตราการใช้เวลาโฆษณาหนาแน่นประกอบกับเรทติ้งละครหลังข่าวของช่อง 3 ก็ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ช่อง 7 ได้มีการขึ้นค่าโฆษณารายการที่ออกอากาศในช่วงกลางวันบางรายการและยกเลิกการแถมนาทีโฆษณาที่เคยให้สำหรับหลายรายการ เช่น ละครหลังข่าว รายการช่วงดึก และ ละครช่วงเย็น (18.00 น.) มีผลมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
จากเหตุการณ์ความไม่สงบในเดือนพฤษภาคมส่งผลให้ช่อง 3 ระงับการออกอากาศไป 45 ชั่วโมงและไม่สามารถออกอากาศได้อย่างปกติอีก 50 ชั่วโมง รวมเวลาที่ช่อง 3 เสียรายได้ค่าโฆษณาประมาณ 95 ชั่วโมงซึ่งคิดเป็นรายได้ประมาณ 120 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในช่วงที่ไม่ได้ดำเนินงานตามปกติ สรุปแล้วเราประเมินว่าผลกระทบต่อกำไรของ BEC จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีสัดส่วนประมาณ 1% ของประมาณการกำไรในปัจจุบัน