DCC คาดรายได้ Q2/53 ลดลงจาก Q1/53 แต่สูงกว่า Q2/52,ทั้งปีโตตามเป้า 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 11, 2010 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนะ สุทธิหวังเจริญ กรรมการ บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค(DCC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"คาดว่ารายได้และกำไรในไตรมาส 2/53 จะชะลอตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1/53 ที่มียอดขาย 1,960 ล้านบาท เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลที่เข้าสู่หน้าฝนทำให้การใช้วัสดุก่อสร้างลดลง แต่ยอดขายจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/52 ที่มียอดขาย 1,461 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามกำลังการการผลิต

"ไตรมาส 2/53 ดีที่เรามีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 3 แสน ตร.ม./เดือน และสามารถทำลายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้ ทำอะไรที่แปลกใหม่เรียกราคาต่างๆ ทำให้ยอดขายได้มากกว่างวดเดียวกันปีก่อน"นายชนะ กล่าว

ช่วงไตรมาส 2/53 บริษัทมีกำลังการผลิตกระเบื้องเพิ่มขึ้น 3 แสน ตร.ม./เดือน เป็น 54 ล้าน ตร.ม./ปี และยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้หรือราวต้นปี 54 กำลังการผลิตน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 61 ล้านตร.ม./ปี

นายชนะ กล่าวว่า ส่วนปีหน้าจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกหรือไม่ก็ต้องดูสถานการณ์ต่อไป เพราะปีหน้าเราก็จะตั้งเป้ายอดขายโตกว่าปีนี้ แน่นอนว่าแต่ละปียอดขายต้องเติบโต ซึ่งขึ้นก็อยู่กับภาพรวมเศรษฐกิจ สถานการณ์การเมือง สถานการณ์โลก แต่แนวโน้มทุกปียอดขายจะต้องเพิ่มขึ้น

พร้อมกันนั้น ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ขึ้น แม้ว่าขณะนี้จะเป็นอันดับ 1 ในประเทศ โดยมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่กว่า 40% และยังไม่มีคู่แข่งใหม่เข้ามาในตลาด มีเฉพาะรายเดิมเท่านั้น ซึ่งตลาดในประเทศถือเป็นตลาดหลัก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด โดยจะมีการเพิ่มจุดขายอย่างต่อเนื่อง

ส่วนตลาดต่างประเทศเป็นตลาดรอง เนื่องจากต่างประเทศขายไม่ได้ราคาและมีกำไรน้อยมาก รวมทั้งยังต้องมีประเด็นเรื่องการขนส่งอีก

"สถานการณ์การเมืองที่ผ่านมาก็ไม่ได้กระทบเพราะอยู่แถวราชประสงค์ แต่เราเน้นขายต่างจังหวัด โดยปีนี้จะขยายตลาดนัดเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง เมื่อถึงสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 206-207 สาขา จากปัจจุบันได้แล้ว 200 แห่ง จากเมื่อต้นปีเพิ่มมา 4-5 แห่งแล้ว สิ้นปีก็น่าจะ 206-207 แห่ง และก็ยังมีแผนที่จะเพิ่มไปอีกเรื่อยๆ ในอนาคต"นายชนะ กล่าว

นายชนะ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้และกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน แม้ว่าไตรมาสแรกจะเติบโตได้มากกว่า 20% ทั้งกำไรและรายได้ และยังจะเติบโตต่อไปในไตรมาสถัด ๆ ไป ขณะที่การจ่ายเงินปันผลก็เชื่อว่าสามารถจ่ายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จ่ายในอัตรา 2.08 บาท/หุ้น ตามผลกำไรที่มีมากขึ้นและไม่มีภาระหนี้สิน

"ตอนนี้ low season ตาม trend ยังไงก็ยอดขายก็ต้องต่ำกว่าไตรมาสที่แล้ว แต่ปีนี้ทั้งปีดีกว่าปีที่แล้ว เพราะตอนนี้แนวโน้มเศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้นแล้ว การเมืองก็นิ่งขึ้น เราก็มีการขยายตลาดนัดเพิ่มขึ้น มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น มีการจัดโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น ทุกอย่างเป็นไปในแง่บวกหมดเลย"นายชนะ กล่าว

นอกจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทก็ได้มีการทยอยปรับราคาขายขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/53 ราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 127-128 บาท/ตร.ม.เป็นการทยอยปรับขึ้นทีละ 1-2 บาท/ตร.ม.เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายราคาเฉลี่ย 130 บาท/ตร.ม. จากราคาเฉลี่ยปี 52 อยู่ที่ 125-126 บาท/ตร.ม.

"ราคาขยับขึ้นได้อยู่ตลอดเพราะเรามีสินค้าใหม่ๆที่จะสามารถ up ราคาเพิ่มขึ้นได้ เรามีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นก็สามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆที่จะเพิ่มราคาขึ้นได้"นายชนะ กล่าว

นายชนะ กล่าวว่า การปรับราคาขายสูงขึ้น จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)เพิ่มขึ้นด้วย โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมาย Pross Profit Margin สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 40-41% ซึ่งในไตรมาส 1/53 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 41-42% แล้ว ดังนั้น ทั้งปีก็น่าจะมากกว่านี้

ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)ในปีนี้ก็จะมากกว่าปีก่อน เพราะยอดขายเพิ่มขึ้นส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไตรมาส 1/53 ยอดขายเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 และกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน 23% จึงคาดว่ากำไรปีนี้ทั้งปีจะต้องดีกว่าปีที่แล้วที่มีกำไร 994 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีขึ้นน่าจะเป็นไปตามที่คาดว่ายอดขายปีนี้ทั้งปีจะเติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังเป็นไปตามที่คาดหมายทุกประการ เพราะ Gross Profit Margin ก็ยังเป็นไปตามที่คาดว่าจะดีกว่าปีที่แล้ว เพราะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับแนวโน้มราคาน้ำมันด้วย เนื่องจากเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ส่วนปัจจัยที่ควบคุมได้คือการเพิ่มกำลังการผลิต และการลดต้นทุนในด้านต่างๆ ที่บริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

"ปีนี้กำไรคงทำสถิติมากกว่าปีที่แล้ว ในแง่ยอดขายยังไม่ต้องปรับเป้า เพราะคำว่าไม่ต่ำกว่า 15% ก็แปลว่าจะต้องมากกว่า ซึ่งก็ดีอยู่แล้ว ราคาน้ำมันก็ไม่กังวลเพราะเราควบคุมไม่ได้แต่เราก็เตรียมทำของเราให้ดีที่สุด ประหยัดอย่างอื่น ถ้าเผื่อน้ำมันขึ้นก็ยังมีอย่างอื่นมาช่วยได้ แต่ถ้าน้ำมันลงยิ่งเป็นผลบวก"นายชนะ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ